17 ตุลาคม 2565 จากกรณีที่ ตำรวจนครบาลนำกำลังบุกช่วย อดีตพยาบาล 3 คน พร้อมลูกอีก 2 คน ถูกนายทุนคลั่งลัทธิ หลอกให้ร่วมลงทุนทำธุรกิจ และใช้กลอุบายสารพัดกักขังหน่วงเหนี่ยว โดยการอุปโลกน์ให้ทำงานใช้หนี้จำนวนหลายล้านบาท ก่อนทำร้ายร่างกายด้วยการใช้น้ำร้อน ราดจนบาดเจ็บ และกักขังไว้ภายในคอนโดแห่งหนึ่ง ย่านพระราม 8 กระทั่งตำรวจสามารถช่วยเหลือเหยื่อออกมาได้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ตร.บุกช่วย 5 ชีวิตตกเป็นทาส ทำงานใช้หนี้อุปโลกน์นายทุนคลั่งลัทธิ (มีคลิป)
ล่าสุดช่วงเย็นวันนี้ (17 ต.ค.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.จับกุมตัว นายฮารุ ฮวังสิริ อายุ 39 ปี ตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ 505/65 ลงวันที่ 17 ต.ค. 65 ในข้อหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้ผู้อื่นนั้นได้รับอันตรายสาหัส , ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้าย จนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น”
และ จับกุม นายตรีเพชรรัตน ณพชร อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ในข้อหาเดียวกัน โดยจับกุมตัวได้ขณะเชิญทั้ง 2 ราย เข้าให้ปากคำเกี่ยวกับข้อมูลรายละเอียดทางคดีดังกล่าว ที่ บก.สส.บช.น.
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า จากการสอบปากคำ และตรวจสอบประวัติข้อมูลผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ทราบว่า ไม่ได้มีเชื้อสายหรือเป็นชาวเกาหลีแต่อย่างใด โดยทั้งคู่ยอมรับร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหาย และใช้กลอุบายแอบอ้างว่า เป็นนักลงทุนจากประเทศเกาหลี เพื่อให้ผู้เสียหายหลงเชื่อเท่านั้น
โดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะควบคุมตัวนายฮารุ และนายตรีเพชร ส่งให้พนักงานสอบสวน สน.บวรมงคล ทำการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาที่มาที่ไป และแผนประทุษกรรมทุกขั้นตอน ที่ผู้ต้องหาใช้หลอกลวงผู้เสียหายจนหลงเชื่อ ตลอดจนการนำตัวผู้เสียหายและลูก ๆ มากักขัง ที่ห้องพักภายในคอนโดมิเนียมย่านพระราม 8 และก่อเหตุทำร้ายร่างกาย จากนั้นจะแจ้งข้อหาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป