
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านพักของยายกี หรือมี่รู้จักกันในนาม “สิบล้อคอกระเช้า” ที่ อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี หลังทราบข่าวว่า ยายกีเจ้าของรถบรรทุกคันดังกล่าว ได้ประกาศขายรถคู่ใจ ปิดฉากการขับรถบรรทุกแล้ว เนื่องจากอายุที่มากขึ้น และมีปัญหาในเรื่องของความจำ ทำให้ครอบครัวเป็นห่วงในเรื่องของความปลอดภัย
นายสมเกียรติ พาชีรัตน์ น้องชายยายกี เผยว่า จริงๆ พี่สาวไม่ได้อยากจะขายรถคันนี้ แต่ด้วยทางครอบครัวญาติพี่น้องได้ประชุม และหารือร่วมกันว่าอยากจะให้ขายรถคันนี้เนื่องจากสุขภาพของพี่สาว ที่เริ่มจะจำอะไรไม่ค่อยได้หลงๆ ลืมๆ และรถก็มีสภาพที่เก่าแล้ว จึงตกลงกันว่าจะขาย ซึ่งในตอนแรกพี่สาวของเขาก็ตกลง แต่พอคนที่จะมาซื้อรถจริงๆ พี่สาวก็ตัดใจขายลำบาก จึงให้หลานสาวพากลับบ้าน และให้หลานอีกคนขาย
ซึ่งฉายา “สิบล้อคอกระเช้า” ที่คนทั่วประเทศพากันพูดถึง เขาเป็นคนตั้งฉายานี้ให้เอง โดยเงินจำนวน 130,000 บาทที่ได้มาจากการขายรถนั้น หลานสาวซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวของคุณยายกี ได้ให้เขาเป็นผู้แลมอบให้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายประจำวัน ส่วนในเรื่องรถนั้นพี่สาวของเขาก็จะมีบ่นหารถเป็นประจำหากว่าคิดขึ้นได้ เนื่องด้วยความจำของพี่สาวของเขานั้นมักมีอาการหลงๆ ลืมๆ
จาการสอบถาม นางสาวปัณฑิกา ร่มไทร อายุ 39 ลูกสาวยายกี กล่าวว่า แม่ขับรถบรรทุกมาแล้วกว่า 40 ปี แต่เนื่องด้วยตอนนี้แม่มีอายุที่มากขึ้น และเริ่มที่จะมีความจำไม่ค่อยดี จึงปรึกษากับน้าชายว่าอยากจะขายรถและให้แม่ได้หยุดพักผ่อนอยู่ที่บ้าน หลังจากที่ขายรถไปแล้วนั้นเธอรู้สึกสบายใจขึ้นมาก เพราะเกรงว่าหากแม่ยังขับรถอยู่จะเกิดอุบัติเหตุและได้รับอันตราย