svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

ของดีเมืองตรัง เมล็ดกาแฟเทือกเขาบรรทัดคั่วโอ่ง สร้างรายได้เสริมชาวสวนยาง

17 กันยายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เมล็ดกาแฟเทือกเขาบรรทัดคั่วโอ่ง ของดีเมืองตรัง ที่ชาวสวนยางร่วมมือกันพลิกฟื้นกาแฟต้นฉบับเมืองตรัง นำมาปลูกในสวนยาง จนได้เมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพ

กลุ่มผู้ปลูกกาแฟเทือกเขาบรรทัด ร่วมกับ มทร.ศรีวิชัย คิดค้นการคั่วกาแฟด้วยโอ่ง ปั่นด้วยมอเตอร์ ติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิไปด้วย นวัตกรรมชิ้นแรกของไทย ทำให้ได้เมล็ดกาแฟที่สวย และสุกพร้อมกันหมด แถมยังหอมอร่อยถูกปากนักชิม

 

กลุ่มผู้ปลูกกาแฟเทือกเขาบรรทัด อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง ซึ่งเกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของเกษตรกรจำนวน 52 ราย เพื่อช่วยกันพลิกฟื้น กาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าต้นแบบของคนตรังที่มีมาอย่างยาวนานนับ 100 ปี ให้หวนคืนกลับมาอีกครั้ง โดยการนำกาแฟไปปลูกแซมในสวนยาง หรือพื้นที่ว่างต่างๆ จนสามารถได้ผลผลิตประมาณปีละ 3-4 ตัน และสามารถนำมาแปรรูปเป็นกาแฟคั่ว รสชาติอร่อย คุณภาพดี ขณะนี้มีตลาดทั้งในและต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะร้านอาหาร ร้านกาแฟทั่วไป และบรรดานักชิมจากทั่วประเทศ สร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรกรชาวสวนยางพารา

ทั้งนี้ทางกลุ่มจะรับซื้อเมล็ดกาแฟสดจากเกษตรกร เพื่อนำมาอบแห้งในตู้อบพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการนำมาใช้ในพื้นที่ภาคใต้ เพราะมีฝนตกชุกตลอดทั้งปี ก่อนที่จะนำไปกะเทาะเปลือกออก และคัดเอาเมล็ดกาแฟที่เสียทิ้งไป จะทำให้เหลือเฉพาะเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพ และสามารถเก็บไว้ได้นานนับปี โดยทางกลุ่มจะนำเมล็ดกาแฟอบแห้งเหล่านี้มาแปรรูปสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ตามออเดอร์ของลูกค้า ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีจะใช้การคั่วด้วยกระทะ ถึงแม้วิธีการนี้จะรวดเร็ว แต่ได้เมล็ดกาแฟที่ไม่ค่อยหอมละมุน

 

ด้วยความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย (มทร.) จึงได้ศึกษาวิจัย เพื่อทดลองทำการคั่วกาแฟด้วยโอ่ง ปั่นด้วยมอเตอร์ นวัตกรรมชิ้นแรกของไทย ปรากฏว่า ได้ผลดีกว่าการคั่วด้วยกระทะ แต่ก็ยังไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควร เนื่องจากโอ่งที่นำมาใช้มีขนาดเล็ก สามารถคั่วกาแฟได้ครั้งละน้อยๆ และยังต้องใช้วิธีการหมุนด้วยมือ เพื่อให้ความร้อนกระจายไปทั่วทั้งโอ่ง จึงมีการพัฒนาให้โอ่งมีขนาดใหญ่ขึ้น และใช้วิธีการหมุนด้วยมอเตอร์ แถมยังมีการติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิไปด้วย รวมต้นทุนประมาณ 4 หมื่นบาท แต่ทำให้สะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น ทุ่นแรง ทุ่นเวลา

นายสุวิทย์ โพชสาลี ประธานกลุ่มผู้ปลูกกาแฟเทือกเขาบรรทัด บอกว่า กระบวนการทำงานของกาแฟคั่วโอ่งว่า คล้ายๆ กับไก่อบโอ่ง เริ่มจากวอร์มอุณหภูมิความร้อนให้อยู่ที่ 160 องศาเซลเซียส เสียก่อน จึงใส่เมล็ดกาแฟลงไปในโอ่งได้ จากนั้นตัวโอ่งก็จะเริ่มหมุนด้วยความเร็ว 30-35 รอบต่อนาที เมื่อผ่านไปราว 15 นาที เมล็ดกาแฟก็เริ่มแตกตัว หรือที่เรียกกันว่า แบบคั่วอ่อน จากนั้นอีก 15 วินาที ก็จะแตกตัวเป็นแบบคั่วกลาง และหากเพิ่มเวลาไปอีก ก็จะแตกตัวเป็นแบบคั่วเข้ม ทั้งนี้ แล้วความชอบของลูกค้าที่อยากได้กาแฟรสชาติแบบไหน

 

วิธีการคั่วโอ่งแบบใหม่นั้น จะทำให้ได้เมล็ดกาแฟที่สวย และสุกพร้อมกันหมด จนแทบไม่มีเมล็ดกาแฟที่เสียเลย และวิธีการนี้ยังสามารถคั่วกาแฟได้ถึงครั้งละ 700 กรัม ซึ่งเพียงพอต่อออเดอร์ของลูกค้าที่สั่งเข้ามาในแต่ละรอบ แต่หากใช้วิธีการคั่วกระทะแบบเดิมๆ จะต้องทำกันหลายครั้ง และผลผลิตในแต่ละครั้งก็มีคุณภาพไม่แน่นอน ดังนั้น นวัตกรรมกาแฟคั่วโอ่ง นอกจากจะส่งผลให้การทำงานสะดวก รวดเร็วแล้ว เมล็ดกาแฟที่จะออกมาก็ยังหอมอร่อยถูกปากนักชิม จนมีราคาซื้อขายถึง กก.ละ 600 บาท

logoline