วานนี้ (7 ก.ย.65) เวลา 21.30 น. ร้อยตำรวจโททิพย์วิมล ด้วงปาน พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุ ฆาตกรรม ที่หน้าบ้าน เลขที่ 83/1 หมู่ 5 ตำบล นาทราย อำเภอเมือง จ.นครศรีธรรมราช จึงลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมแพทย์เวรชันสูตร รพ.มหาราช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจ
ที่เกิดเหตุพบว่า เป็นลานดินหน้าบ้าน พบศพ นายดนัย หรือเชาว์ รถทิพย์ อายุ 34 ปี สภาพศพมีบาดแผล ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซอง กระสุนกระจายเข้าใบหน้า หน้าอก รวม 7 แผล และมีบาดแผลถูกของมีคมบริเวณไหล่อีก 1 แผล
ขณะที่นายเสรี หรือเผือก รถทิพย์ อายุ 46 ปี พี่ชายแท้ๆ ของผู้ตาย นั่งรอเจ้าหน้าที่ เพื่อขอมอบตัว พร้อมอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก เป็นอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุยิงน้องชาย
นอกจากนั้นยังแจ้งเจ้าหน้าที่ว่า มีผู้บาดเจ็บอีก 1 รายคือนายธนัช หรือทวน รถทิพย์ อายุ 23 ปี เป็นลูกชายของนายเสรี เป็นหลานอาของนายดนัย พบถูกฟันด้วยมีดพร้าหลายแผลอยู่ในอาการสาหัส ได้ถูกนำตัวส่ง รพ.มหาราชไปก่อนหน้าแล้ว
นายเสรี แจ้งเจ้าหน้าที่ว่า ก่อนเกิดเหตุนายดนัย หรือเชาว์ ถือมีดพร้าบุกเข้ามาที่บ้านในสภาพเมาจัด ด่าทอ ตนเ และครอบครัวอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ มาระงับเหตุหลายครั้งแล้ว แต่ยังคงเป็นเหมือนเดิมจนมาครั้งนี้ได้ถือมีดพร้า บุกเข้าในบ้าน ตน และภรรยา ต้องหลบออกไปหลังบ้านในขณะที่ช่วงเวลานั้น ลูกชาย คือนายธนัช กลับมาพอดี เมื่อนายดนัย ซึ่งเป็น อา เห็น ลูกชาย จึงพุ่งเข้าไปใช้มีดพร้าฟันทำร้ายก่อนที่ตนเองได้ใช้อาวุธปืนยิงน้องชายไป 1 นัดเสียชีวิตทันที ซึ่งหากว่า ตน ไม่ยิง เชื่อว่าทั้ง ตน และลูกต้องตายแน่อย่างน้อยก็ 2 ศพ และอาจลามไปถึง ภรรยา และลูกในบ้านอีก ซึ่งหลังจากก่อเหตุได้แจ้งเจ้าหน้าที่ และมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยมารับตัวลูกชายไปส่ง รพ.
ส่วนนางจุรา รถทิพย์ อายุ 45 ปี ภรรยาของนายเสรี และเป็นพี่สะใภ้ ของผู้ตาย ยืนยันว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตาย มีอาการเมาอย่างหนัก เข้ามาด่าทอโดยเข้าใจว่า ครอบครัวของ
นายเสรี เป็นต้นเหตุที่ทำให้ ภรรยา ของ นายดนัย เลิกรา แยกทางไป ซึ่งเหมือนกับจะโกรธแค้นอยู่ในใจ ทั้งที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไร ซึ่งทุกครั้งที่มีอาการเมาจะเข้ามาระราน อย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็เข้ามาระงับเหตุบ่อยครั้ง จนกระทั่งครั้งนี้กลายเป็นเรื่องรุนแรง
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่า ผู้ตายพัวพันยาเสพติดในฐานะผู้เสพ ในพื้นที่ตำบลนาทราย ซึ่งก่อนหน้านี้ ถูกเจ้าหน้าที่ คุมตัวไปตรวจสารเสพติดแล้ว แต่ตรวจพบเพียงเบาบาง แต่ก็ติดตามพฤติการณ์มาโดยตลอด ก่อนเกิดเหตุมีพยานระบุว่า นายดนัย ผู้ตาย ไปดื่มเหล้า และคาดว่าน่าจะเสพยาเสพติดร่วมด้วย จนกระทั่งเกิดอาการครองสติไม่อยู่เข้ามาก่อเหตุ
ส่วนนายเสรี ผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บคราบเขม่าจากมือของนายเสรี และ เก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ในที่เกิดเหตุ พร้อมแจ้งข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยมี และใช้อาวุธปืน ซึ่งจะได้มีการสอบพฤติการณ์แห่งคดีสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการต่อไปแล้ว