ความคืบหน้าคดีที่ นายณรงค์ฤทธิ์ เกตุแก้ว เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองนกไข่ ต.หนองนกไข่ อ.กระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ถูกคนร้ายลอบยิงเข้าที่ศีรษะได้รับบาดเจ็บ ภายในบ้านพักเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้ (22 ส.ค.) พลตำรวจโทธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายกุศลิน หรือ มี สุขแปดริ้ว อายุ 52 ปี ชาวตำบลหนองนกไข่ กับ นายสมปอง หรือ ปอง ลิ้นปิ่น อายุ 66 ปี โดยทั้งสองคนเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดสมุทรสาคร ในข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น โดยไตร่ตรองไว้ก่อน”
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวว่า จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนฯ ตลอดระยะเวลาเกือบ 3 เดือน ทำให้ทางตำรวจมีหลักฐานเป็นที่บ่งชัดว่า บุคคลดังกล่าวทั้ง 2 รายนั้น เป็นผู้ร่วมกันก่อเหตุพยายามฆ่า นายณรงค์ฤทธิ์ เกตแก้ว เลขานายก อบต.หนองนกไข่
ส่วนปมสังหารนั้น ยังมีอยู่หลายประเด็นที่ยังคงต้องทำการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ซึ่งต้องขอเวลาในการสอบปากคำ เพื่อขยายผลให้มีความชัดเจนมากที่สุด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่า ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ที่เหิมเกริม ไม่เกรงกลังต่อกฎหมายบ้านเมือง และจากประวัติการสืบสวนก็พบว่า ก่อเหตุมาหลายครั้ง ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รื้อคดีเก่าขึ้นมาด้วย
ขณะที่อาวุธปืนที่ตรวจพบจากบ้านของผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนั้น ตอนนี้ส่งไปตรวจสอบอยู่ว่า มีการนำไปใช้ก่อเหตุหรือไม่ หากพบว่า มีการนำไปกระทำความผิด จะประสานฝ่ายปกครองเพื่อให้เพิกถอนใบอนุญาต
ผบช.ภ.7 กล่าวอีกว่า ในส่วนของผู้อยู่เบื้องหลังนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนเพิ่มเติม หากมีหลักฐานเชื่อมโยงถึงใคร จะต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมดอย่างแน่นอน เพื่อคืนความเป็นธรรมให้แก่ทางครอบครัวผู้บาดเจ็บ แม้ตอนนี้ทางผู้ต้องหาจะยังให้การปฏิเสธ และอยู่ในอาการที่นิ่งไม่รู้สึกสะทกสะท้าน
ส่วนประเด็นที่ ญาติของผู้เสียหายให้น้ำหนักไปเรื่องของการเมืองท้องถิ่นนั้น เป็นอีกประเด็นที่ตำรวจตั้งไว้ และยังไม่ตัดในทุก ๆ ประเด็น เพราะในพื้นที่ตรงนี้อดีตเคยมีปัญหาเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งข้อมูลหลักฐานทั้งหมด อยู่ในสำนวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้
ด้านนางสาวณัชชา เกตแก้ว อายุ 36 ปี ลูกสาวของนายณรงค์ฤทธิ์ ระบุว่า คนร้ายทั้งสองคนนั้นเป็นเครือญาติกับครอบครัวของตน ส่วนตัวเชื่อว่า น่าจะมีผู้ร่วมก่อเหตุอีก และเชื่อด้วยว่าคนร้ายทั้งสองคนนั้นไม่ใช่แพะอย่างแน่นอน พ่อของตนไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งเรื่องส่วนตัวกับใคร แต่จะมีก็แค่เรื่องของการเมืองท้องถิ่นอย่างเดียวเท่านั้น
ส่วนความหวาดระแวงนั้น ยอมรับว่า ยังมีอยู่เหมือนเดิม เพราะที่บ้านมีแต่เด็กกับผู้หญิง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตำรวจ ส่งเจ้าหน้าที่ไปรักษาความปลอดภัยให้กับพ่อตลอดเวลาที่โรงพยาบาล ส่วนประเด็นที่ว่ายังมีผู้อยู่เบื้องหลังนั้น ตนเองและครอบครัวไม่อยากจะพาดพิงถึงใคร ขอปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการจัดการกับผู้กระทำผิดทั้งหมด