อิมแพ็คฯ จัด ”มหกรรมสัตว์เลี้ยง ครั้งที่ 13" สุดยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี
”มหกรรมสัตว์เลี้ยง ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี SmartHeart presents Thailand International Pet Variety Exhibition “ ภายใต้แนวคิด Pet Lympic ท้าประลองความแข็งแกร่งของเหล่าสัตว์เลี้ยง อาคาร 7-8 อิมแพคเมืองทองธานี 5 - 8 ตุลาคม นี้
27 กันยายน 2566 น.ส.กุลวดี จินตวร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่นแมนเนจเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า อิมแพ็คฯ เตรียมงาน SmartHeart presents Thailand International Pet Variety Exhibition ครั้งที่ 13 ที่จัดขึ้นเพื่อผลักดันอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงให้มีโอกาสพบผู้บริโภคที่เลี้ยงสัตว์ รูปแบบการจัดแสดงสินค้าลักษณะงานวาไรตี้ ครอบคลุมสัตว์เลี้ยงหลายหลายประเภท(Pet Variety) และยังเป็นการเอาใจคนรักสัตว์เลี้ยง ใส่ใจสุขภาพสัตว์เลี้ยง นับเทรนด์ที่เพิ่มขึ้นทุกปี
“ปีนี้ เราเดินทางมาถึงครั้งที่ 13 ภายใต้แนวคิด Pet Lympic ท้าประลองความแข็งแกร่ง เหล่าสัตว์เลี้ยง ทั้งด้านสุขภาพ ความสัมพันธ์ระหว่างสัตว์เลี้ยงกับเจ้าของ เราอยากเอาใจ เหล่า Pet Parent จึงจัดกิจกรรมส่งท้ายปีอย่างยิ่งใหญ่” น.ส.กุลวดี กล่าว
สำหรับการท้าประลอง มีตั้งแต่รูปแบบโปรแกรมการแข่งขันระดับ Fun Show การแข่งขันมาหาแม่มา AWARD และ แข่งแมวเลีย หมาเลีย แชมป์เปี้ยนชิพ และไฮไลท์ จะเป็นการแข่งขันศึกในตำนานที่เคยมียอดผู้เข้าชมกว่า 51 ล้านวิวในยูทูป “วิ่งแข่งกระต่ายกับเต่า” ที่จะให้กระต่ายมาล้างแค้นเต่า โดย Pet Influencers
นอกจากนี้ ยังมีการแข่งขันระดับนานาชาติ อาทิ การประกวดตัดขนแมวระดับโลก ที่ถูกจัดขึ้นครั้งแรก ในประเทศไทย “1st ISFC Grooming Certification & Competition 2023”, การประกวดแมวจากสมาคม SCFC, การแข่งขันพิทบูลลากน้ำหนักชิงแชมป์ประเทศไทย, ประกวดไก่และนกหงส์หยก, ประกวดกุ้งสวยงามชิงแชมป์, ประกวดแมงมุมทารันทูล่าและอีกมากมาย
ขณะที่ นายนิติพงศ์ เลาหวิศิษฏ์ อุปนายกสมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงไทย กล่าวถึงภาพรวมสัตว์เลี้ยงในประเทศไทย ด้วยวิถีชีวิตของคนในสังคมไทยที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้มีอัตราการเจริญเติบโตที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างเช่น เลี้ยงง่ายไม่ยุ่งยาก พื้นที่อยู่อาศัยที่จำกัด ภาวะสังคมที่ประชากรมีภาวะการเกิดทารกที่น้อยลง เป็นต้น ล้วนส่งผลให้ตลาดสัตว์เลี้ยงมีการเติบโตมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะแมว กลุ่มสัตว์เลี้ยงที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ปัจจุบัน คนไทยนิยมเลี้ยงมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ได้แก่ สุนัข รองลงมาคือแมว และอันดับ 3-5 เป็นสัตว์เอ็กโซติก ตามลำดับ
นายนิติพงศ์ ยอมรับว่า ความแตกต่างของตลาดสัตว์เลี้ยง มักขึ้นอยู่กับปัจจัยของแต่ละกลุ่มคนเลี้ยง เช่นนิสัยเจ้าของ พื้นที่ในการเลี้ยง ความชอบส่วนบุคคล และอื่นๆ ซึ่งจะส่งผลไปยังกลุ่มธุรกิจที่เข้ามาจับตลาดสัตว์เลี้ยงในแต่ละกลุ่ม เช่น กลุ่มคนรักสุนัข และแมวก็จะไม่เหมือนกัน
ปัจจุบัน ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยง จึงถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์และความต้องการของผู้เลี้ยงเป็นหลัก เช่น อาหารสัตว์เลี้ยง ที่คาดว่าจะเป็นเทรนด์ที่มุ่งไปสู่ตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) มากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคยุคใหม่ต้องการสินค้าที่สอดคล้องกับ Lifestyle ซึ่งอาหารสัตว์เลี้ยงทางเลือกเพื่อสุขภาพที่กำลังได้รับความนิยม จะมาจากพืช เช่น ถั่ว ข้าวโอ๊ต และเห็ด เป็นต้น หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง (Pet Friendly Destination)
สิ่งเหล่านี้ ปัจจุบันยังมีความต้องการที่มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ตลาดอาจรองรับไม่เพียงพอในบางธุรกิจ เนื่องจากส่วนมากคนเลี้ยงสัตว์เป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อเยอะ ทำให้มีความต้องการสูง เช่น ธุรกิจโรงแรมรับฝากสัตว์เลี้ยง หรือธุรกิจอาบน้ำตัดขนสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมจและมีอัตราการเจริญเติบโตมากถึง 20% ต่อปี
“การเลี้ยงสัตว์เปรียบเสมือนการดูแลคนในครอบครัว เมื่อตัดสินใจรับเข้ามาเลี้ยงแล้ว ก็ต้องมีความรับผิดชอบที่จะดูแลเขาไปตลอดชีวิต การเลี้ยงตามแฟชั่น หรือการเลี้ยงเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ จะนำมาซึ่งปัญหาของสังคมตามมามากมาย”
อุปนายกอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงไทย กล่าวย้ำปัจจัยพื้นฐาน 3 ข้อ สำหรับคนที่สนใจเลี้ยงสัตว์ ได้แก่ สถานที่เลี้ยง เวลาในการเลี้ยงและค่าใช้จ่ายในการดูแล ทั้ง 3 ปัจจัยนี้จะต้องมีพร้อม ไม่สามารถขาดข้อใดข้อหนึ่งได้ เพราะหากรับมาเลี้ยงแล้ว แต่ไม่สามารถเลี้ยงเขาได้ จะกลายเป็นภาระอันหนักหน่วง
น.ส.โชษิตา เทียนสว่าง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ บริษัท เพอร์เฟค คอมพาเนียนฯ กล่าวถึงผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงว่า จะแบ่งออกตามหมวดหมู่ความต้องการของสัตว์เลี้ยงแต่ละประเภท ไม่ว่าจะเป็นสุนัข แมว นก สัตว์ฟันแทะ ปลาสวยงาม ปลาคาร์พ หรือแม้กระทั่งม้า โดยบริษัทฯ พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของสัตว์เลี้ยง แยกผลิตภัณฑ์ออกเป็นกลุ่มชัดเจน เช่นกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสุนัข อาหารแมว นกและสัตว์ปีก เป็นต้น
“ภายในงานจะมีการประกวด “แมวสวยตาใส ขวัญใจมีโอ” ถือว่าเป็นการประกวดเดียวที่ไม่คำนึงถึงสายพันธุ์ ขอเพียงแค่น้องแมวนั้น มีสุขภาพที่ดี ได้รับการดูแลที่ดี ขนสวย ตาใส รับรางวัลชนะเลิศ 7,000 บาทพ พร้อมผลิตภัณฑ์จากมีโอ และยังมีรางวัลใหม่ สำหรับท่านใดที่มีแมวสูงวัย 7+ ขึ้นไป จะมีรางวัลพิเศษให้อีก 3,000 บาท ในกรณีที่มีน้องแมวอายุ 7+ มาเกิน 3 ตัว “
ขอเชิญมาเที่ยวชมและร่วมกิจกรรมภายในงาน จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 5 - 8 ตุลาคม 2566 ณ อาคาร 7 - 8 อิมแพคเมืองทองธานี บัตรเข้าชมงาน 20 บาท (สัตว์เลี้ยงและเด็กสูงต่ำกว่า 120 ซม.เข้าฟรี) รายได้ส่วนหนึ่ง บริจาคเพื่อการกุศลช่วยเหลือคนสัตว์พิการ