
31 ธันวาคม 2568 ที่ตลาดสายเนตร เขตคันนายาว กทม. ศ.ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้สมัคร สส.กทม.เขต 15 ลงพื้นที่หาเสียง
โดยเมื่อ ศ.ดร.ยศชนัน มาถึง ได้เดินพบปะพูดคุย พร้อมแนะนำตัวผู้สมัคร และหมายเลขปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึก มีประชาชนนำดอกกุหลาบและพวงมาลัยดอกดาวเรือง มามอบให้กับนายยศชนัน
จากนั้น นายยศชนันได้เดินหาเสียงด้วยการประชาสัมพันธ์นโยบายของพรรคเพื่อไทย ทั้งเรื่องของรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย รถเมล์ติดแอร์ 10 บาท รวมถึงการลดค่าไฟเหลือ 3.7 บาทต่อหน่วย
ซึ่งได้มีประชาชนถามกับนายยศชนัน ว่า หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล จะยังทำโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายต่อได้ใช่หรือไม่ ซึ่งนายยศชนัน ยืนยันว่า ทำได้ภายในสามเดือน
นอกจากนี้ ระหว่างทางได้มีประชาชนคนหนึ่งได้นำพวงมาลัยสีแดง มาคล้องคอให้นายยศชนัน พร้อมอวยพรให้โชคดี
ซึ่งนายยศชนัน ก็ได้ยิ้มตอบรับ และได้อ้อนขอคะแนนว่า “เขตนี้เบอร์ 6 พรรคเพื่อไทยเบอร์ 9 และปีหน้า 69 ต้องเลือกทั้งคนทั้งพรรค ขออย่าเลือกผิด”
ทั้งนี้ ระหว่างการหาเสียง นายยศชนันได้ร่วมทดลองปิ้งหมูร่วมกับแม่ค้าเจ้าของร้านขายหมูปิ้ง และยังได้แวะไหว้พระสงฆ์ที่มาบิณฑบาตในพื้นที่บริเวณตลาด
ภายหลังเดินหาเสียงเสร็จสิ้น ศ.ดร.ยศชนัน ได้พาผู้สมัครและ สก.ที่มาร่วมลงพื้นที่ รับประทานอาหารกับ ประชาชนในพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหา โดยมีเมนูได้แก่ ไข่พะโล้ ผัดฟักทอง และข้าวเหนียวหมูปิ้งที่นายนายยศชนันย่างเอง
ศ.ดร.ยศชนัน กล่าวภายหลังการลงพื้นที่ถึงความมั่นใจในเขตนี้ ว่า ผู้สมัคร สส. ลงพื้นที่ตลอดและวันนี้จากการลงพื้นที่ ได้รับกำลังใจจากประชาชน ได้พูดคุยเกี่ยวกับนโยบายพอสมควร โดยเห็นนโยบายหลายอย่างของพรรคเพื่อไทยจะโดนใจประชาชน ขณะเดียวกัน 2 ปีที่ผ่านมา นายพลภูมิ ลงพื้นที่ตลอดไม่เคยทิ้งประชาชนมั่นใจว่าครั้งนี้จะสามารถกลับมาได้
พร้อมประเมินถึงกระแสทางการเมืองว่า พยายามที่จะทำไปข้างหน้าด้วยมีเวลาอีก 1 เดือน ขณะเดียวกันเรื่องของกระแสไม่ได้มีปัญหา แต่สิ่งที่สำคัญคือการส่งมอบนโยบายที่ถูกต้องให้กับบุคคลในพื้นที่ จะเป็นจุดที่สำคัญกว่ากระแส
เมื่อถามว่า หลายนโยบายยังทำไม่สำเร็จยังมั่นใจว่าจะขายนโยบายต่อได้อย่างไร
ศ.ดร.ยศชนัน กล่าวว่า พอได้นั่งคุยกับประชาชนมีเรื่องของปัญหาปากท้อง ไม่ว่าจุดไหนของกรุงเทพ หลังจากนี้จะมีนโยบายเกี่ยวกับหนี้ นโยบายที่ประชาชนรออยู่คือรถไฟรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย โดยเพิ่มเติมที่บางจุดประชาชนไม่ได้อยู่ในทางรถไฟรถไฟฟ้าจะมีฟีดเดอร์ 10 บาท รวมถึงค่าไฟฟ้า 3.7 บาท สามารถทำได้จะดูแลทั้งระบบ ด้วยจะนำพลังงานทดแทนกลับมาใช้ เพื่อลดค่าไฟได้อย่างยั่งยืน
ส่วน กรณีที่นายกรัฐมนตรี ระบุว่าไม่อยากให้การหาเสียงเลือกตั้ง ครั้งนี้มีการชกใต้เข็มขัดกัน
ศ.ดร.ยศชนัน กล่าวว่า ตนยืนยันว่าพรรคเพื่อไทย ให้ความสำคัญเรื่องนี้มาโดยเสมอ และย้ำว่าเราต้องมองไปข้างหน้า มองสิ่งที่ประเทศและประชาชนเดือดร้อน เพราะปีหน้าจะเป็นปีที่ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังจะเกิดขึ้น หมดเวลาที่จะมองว่าใครดีหรือไม่ดีกว่ากัน แต่ต้องมองไปข้างหน้าและให้โอกาสกับประชาชนเพื่อให้ประชาชนพลิกฟื้นชีวิตได้
เมื่อถามว่า ตั้งแต่วันที่ได้หมายเลข จนถึงตอนนี้ พบการกระทำใดที่ไม่โปร่งใส หรือเหตุการณ์ทุจริตบ้างแล้วหรือไม่
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีการติดตามเหตุการณ์ทุจริตคอร์รัปชันอย่างใกล้ชิด มีการตั้งกองตรวจสอบการทุจริตการเลือกตั้ง โดยมีนายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นผู้ดูแล สะท้อนว่าพรรคเพื่อไทยจริงจังกับเรื่องนี้มาก เพราะโดนกระทำในลักษณะนี้มาหลายครั้ง
ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ ก็เชื่อว่าจะมีการทุจริตเกิดขึ้น เป็นหน้าที่ของผู้สมัครที่ต้องคอยสอดส่องดูแล รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่นกกต. และหน่วยงานที่ดูแลด้านการยุติธรรม ที่จะคอยสอดส่อง ขณะที่พรรคเพื่อไทยก็จะคอยติดตามอย่างใกล้ชิด ส่วนหากถามว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นในตอนนี้แล้วหรือไม่ ก็มีเค้าลาง การเลือกตั้งในช่วงต้น ยังไม่มีกระบวนการ ซื้อเสียง เพราะมีการเฝ้าระวังอยู่
ส่วนมั่นใจว่าจะสามารถปักธงในพื้นที่กรุงเทพได้มากแค่ไหน
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า พื้นที่กรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่ที่ไม่มีใครกล้าพูดคำว่ามั่นใจออกมา เนื่องจากว่าเป็นพื้นที่ ที่มีความอ่อนไหว ต่อสถานการณ์ทางการเมืองค่อนข้างมาก
สิ่งที่พรรคการเมืองจะทำได้คือการนำเสนอนโยบาย รวมถึงการทำแนวอุดมการณ์แนวความคิดของพรรค ให้เป็นที่ประจักษ์กับประชาชน เพื่อที่จะได้รับความไว้วางใจจากประชาชน คงไม่กล้าฟันธงว่าจะได้เท่าไหร่ แต่ตนยืนยัน ว่าพื้นที่กรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่พรรคเพื่อไทย ปักธงได้มากแน่นอน ขอหลายธงก็แล้วกัน พร้อมรับปากว่าจะลงพื้นที่ให้เข้าถึงประชาชน
ส่วน นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้สมัคร สส.กทม.เขต 15 กล่าวถึงการลงพื้นที่หาเสียง ว่ามั่นใจจากการเลือกตั้งครั้งก่อนที่พลาดไป 2-3 ปีที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ต่อเนื่อง ให้ประชาชนเปรียบเทียบระหว่างกระแส กับคนทำงาน ยืนยันพรรคเพื่อไทยพร้อมในเรื่องของนโยบาย ตัวคนทำงานในพื้นที่ก็มีความพร้อม เพราะฉะนั้นเลือกตั้งรอบนี้มีมีความหวังแน่นอน ในเขตคันนายาวและเขตบึงกุ่ม