svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

“เจ้าของรีสอร์ทหลีเป๊ะ” ร้องรองประธานสภาฯ ขอความเป็นธรรมปมปัญหาที่ดิน

13 ธันวาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

“เจ้าของรีสอร์ทหลีเป๊ะ” ยื่นหนังสือถึง “รองประธานสภาฯ” ขอความเป็นธรรม กรณีข้อพิพาทที่ดิน ถูกศาลตัดสินให้ขายทอดตลาดไม่ตรง ส.ค.1 วอน “กรมบังคับคดี-กรมอุทยานฯ-กรมที่ดิน” ลงตรวจสอบ

13 ธันวาคม 2565 ที่รัฐสภา นายสามารถ เจริญฤทธิ์ ผู้ประกอบการรีสอร์ทแห่งหนึ่ง บนเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล ยื่นหนังสือร้องเรียน เพื่อขอความเป็นธรรมต่อ นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 กรณีถูกกรมบังคับคดี ยึดที่ดินที่อยู่ในการครอบครองสิทธิ ไปขายทอดตลาด ตามคำพิพากษาศาล

แต่ปรากฎว่า ที่ดินตามคำพิพากษาของศาล ที่อ้างอิงแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) นั้น เป็นคนละแปลงกับที่ดินที่ตั้งของรีสอร์ของนายสามารถ จนได้รับความเดือดร้อน ไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ โดยมี นายนาถะ ดวงวิชัย ผู้อำนวยการสำนักงานประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้หนังสือแทน 

 

“เจ้าของรีสอร์ทหลีเป๊ะ” ร้องรองประธานสภาฯ ขอความเป็นธรรมปมปัญหาที่ดิน
 

นายสามารถ เปิดเผยว่า ตนเป็นผู้ประกอบการรีสอร์ทบนเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล โดยได้ซื้อที่ดินมาจากชาวเลท้องถิ่นตั้งแต่ปี 50 ก่อนจะมีข้อพิพาทกับฝ่ายโจทก์ ซึ่งอ้างว่า ได้หุ้นกับตนในการซื้อที่ดิน ที่เป็นที่ตั้งของรีสอร์ทของตนในปัจจุบัน ทั้งที่เป็นเพียงการกู้ยืมเงิน และตนได้การชดใช้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แต่โจทก์ได้นำไปฟ้องร้องต่อศาล ซึ่งศาลก็ได้ตัดสินถึงที่สุดเมื่อปี 57 ว่า ให้ตนและฝ่ายโจทก์ แบ่งที่ดินกัน หากตกลงกันไม่ได้ ให้นำที่ดินขายทอดตลาด และให้นำเงินมาแบ่งกัน ซึ่งตนก็ได้โต้แย้งคำพิพากษาว่า ยังคลาดเคลื่อนต่อข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายหลายประการ เนื่องจาก ส.ค.1 ที่อ้างตามคำพิพากษาของศาล ไม่ใช่จุดที่ตั้งของรีสอร์ทของตน

นายสามารถ กล่าวต่อว่า จนถึงปี 64 กรมบังคับคดี ก็ได้นำที่ดินที่พิพาทไปขายทอดตลาด ปรากฎว่า ฝ่ายโจทก์เป็นผู้เข้าไปซื้อที่ดินดังกล่าว ภายหลังซื้อแล้ว โจทก์ได้นำกลุ่มชายฉกรรจ์ เข้ามาบุกรุกพื้นที่รีสอร์ทของตน ทั้งที่ที่ดินตาม ส.ค.1 ที่โจทก์ซื้อจากกรมบังคับคดี อยู่คนละจุดกัน

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ก็ได้ทำการตรวจสอบรังวัดที่ดิน และตนได้เป็นผู้นำชี้เขตที่ดิน ที่ปรากฎว่า ไม่ตรงตาม ส.ค.1 ที่นำมาอ้าง แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีหนังสือแจ้งยืนยันใด ๆ จากทางอุทยานฯ และเนื่องจากเกรงว่า จะเกิดอันตราย ตนจึงได้เข้าลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เกาะหลีเป๊ะ ขณะที่ฝ่ายโจทก์เอง ก็ได้แจ้งความดำเนินคดีกับตน ฐานไม่ออกจากที่ดินพิพาท จนตนถูกออกหมายจับ 3 ใบในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา 

 

“เจ้าของรีสอร์ทหลีเป๊ะ” ร้องรองประธานสภาฯ ขอความเป็นธรรมปมปัญหาที่ดิน
 

นายสามารถ กล่าวต่อว่า ในช่วงที่มีข้อพิพาทกันเมื่อปี 57 เป็นช่วงเดียวกับที่มีการจัดระเบียบพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ โดยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตาขณะนั้น ได้ออกหนังสือแจ้งผลการรังวัดและเขตตำแหน่งที่ดิน ลงวันที่ 23 พ.ค. 58 ระบุว่า เขตที่ดินตาม ส.ค.1 เลขที่ 25 และเลขที่ 32 ทิศและตำแหน่งที่ดิน ซึ่งใช้กล่าวอ้างในชั้นศาล ไม่สอดคล้องและรองรับกับตำแหน่งที่ดินในพื้นที่จริง และอนุญาตให้ตนเข้าไปดำเนินการในพื้นที่ ไว้เป็นการชั่วคราว รวมทั้งยังมีพื้นที่ดังกล่าว ก็ได้รับการคุ้มครองตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 41 และต่อมาได้มีมติ ครม. เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 61 เพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาที่ดินป่าไม้

ซึ่งหลักฐานเหล่านี้ตนได้โต้แย้งให้ กรมบังคับคดี ทราบว่า ที่ดินที่จะดำเนินการขายทอดตลาดนั้นไม่ถูกต้อง เพราะตรงนั้นถือเป็นที่ดินของอุทยานแห่งชาติตะรุเตา รวมทั้งโต้แย้งผ่านหน่วยงานต่าง ๆ ทั้ง กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม, กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย เพื่อให้เข้ามาตรวจสอบ แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการใด ๆนายสามารถ เปิดเผยด้วยว่า ได้ไปยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมต่อนายกรัฐมนตรี รวมทั้งอธิบดีกรมอุทยานฯ แล้วด้วย 

 

นายสามารถ เจริญฤทธิ์ ผู้ประกอบการรีสอร์ทแห่งหนึ่งบนเกาะหลีเป๊ะ
 

logoline