4 พ.ย.65 "ศาลปกครองกลาง"มีคำพิพากษาเพิกถอนประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง"แต่งตั้งข้าราชการตำรวจ" ลงวันที่ 7 ก.ย.2565 อันเนื่องจากมติของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ในการประชุมครั้งที่ 8/2565 เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2565 ที่เห็นชอบแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ลงมาถึงผู้บังคับการ (ผบก.) วาระประจำปี 2565 เฉพาะส่วนที่ไม่มีรายชื่อของ "พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์" รอง ผบช.ภ.8 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการ (ผบช.)
โดยให้มีผลย้อนหลังถึงวันที่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี มีผลใช้บังคับ และมีข้อสังเกตเกี่ยวกับวิธีการดำเนินการให้เป็นไปตามคำพิพากษา ว่า ก.ตร. และนายกรัฐมนตรี จะต้องไปพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นเฉพาะในส่วนของ พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ให้ถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ภายใน 30 วันนับแต่วันที่คดีถึงที่สุด
โดยคดีดังกล่าว "พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์" รอง ผบช.ภ.8 ได้ยื่นฟ้อง ก.ตร. และนายกรัฐมนตรี ต่อศาลปกครองกลางว่า ก.ตร. และนายกรัฐมนตรี ซึ่งมี "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาราชการแทน ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ก.ตร. เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2565 พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ลงมาถึงผู้บังคับการ (ผบก.) วาระประจำปี 2565 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
เนื่องจาก "พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์" ผู้ฟ้องคดี เป็นผู้มีรายชื่อตามหนังสือสำนักงานกำลังพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ลงวันที่ 4 ก.ค. 2565 เรื่อง ประกาศลำดับอาวุโสข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบก. ถึง จเรตำรวจแห่งชาติ และ รอง ผบ.ตร. ครั้งที่ 2 ในลำดับอาวุโสที่ 24 แต่ในประชุมคครั้งดังกล่าว ไม่ปรากฏชื่อ "พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์" เป็นผู้ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงดำแหน่ง ผบช.
จึงขอให้ศาลสั่งเพิกถอนมติ ก.ตร.ดังกล่าว และให้ ก.ตร. มีการประชุมพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ลงมาถึงผู้บังคับการ (ผบก.) วาระประจำปี 2565 ใหม่ให้ถูกต้องตามกฎหมายโดยเร็ว
"ศาลปกครองกลาง" ให้เหตุผลว่า คดีนี้ ปรากฏข้อเท็จจริง ในวาระประจำปี 2565 มีตำแหน่งผู้บัญชาการว่างจำนวน 16 ตำแหน่ง โดยมีข้าราชการตำรวจที่ดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการที่มีสิทธิเลื่อนขึ้นแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการจำนวน 134 คน ซึ่งมาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 ได้บัญญัติหลักเกณฑ์เพื่อใช้ในการคัดเลือกไว้ว่า ในการคัดเลือกข้าราชการตำรวจเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ผบ.ตร. หรือ ก.ตร. จะต้องพิจารณโดยคำนึงถึงความอาวุโส ประวัติการรับราชการ ผลการปฏิบัติงาน ความประพฤติ และความรู้ความสามารถ ซึ่งหลักเกณฑ์หรือองค์ประกอบในการคัดเลือกที่บัญญัติในมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวนี้ถือเป็นหลักเกณฑ์หรือองค์ประกอบในการคัดเลือกที่มีความสำคัญ และในการนำหลักเกณฑ์หรือองค์ประกอบในการคัดเลือกดังกล่าวมาใช้ในการคัดเลือกเพื่อป้องกันมิให้ ผบ.ตร. หรือ ก.ตร. ใช้อำนาจในการคัดเลือกตามอำเภอใจ
อีกทั้งกรณี "ผบ.ตร." คัดเลือกข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งสูงขึ้นแล้ว เสนอรายชื่อให้ ก.ตร. พิจารณาให้ความเห็นชอบ ถึงแม้ ก.ตร. จะชี้แจงข้อเท็จจริงต่อศาลว่า ผบ.ตร. ได้ให้จเรตำรวจแห่งชาติและรอง ผบ.ตร. ทุกคนเข้าร่วมกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในการคัดเลือกก็ตาม แต่จเรตำรวจแห่งชาติและรอง ผบ.ตร. เข้าร่วมในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มิใช่เข้าร่วมในฐานะเป็นกรรมการที่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนในการคัดเลือก การที่ ผบ.ตร. มีอำนาจในการคัดเลือกเพียงคนเดียว จึงมิใช่การคัดเลือกตามระบบคุณธรรม
ตลอดจนในการพิจารณาของ ก.ตร. เพื่อให้ความเห็นชอบข้าราชการตำรวจเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นนั้น เมื่อได้พิจารณาสำเนารายงานการประชุมของ ก.ตร. ดังกล่าว เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2565 ในวาระการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ วาระประจำปี 2565 แล้ว ไม่มีการสรุปว่ามีกรรมการของ ก.ตร. อภิปรายในระเบียบวาระดังกล่าว
มีรายงานว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบข้าราชการตำรวจเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น จึงถือว่าที่ประชุมไม่มีอภิปรายในระเบียบวาระนี้ ไม่ได้เป็นการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือองค์ประกอบที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 และกฎ ก.ตร. ประกอบกับ คุณสมบัติ "พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์" รอง ผบช.ภ.8 อยู่ในหลักเกณฑ์และองค์ประกอบในการคัดเลือกที่สูงกว่าข้าราชการตำรวจที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นอย่างน้อยจำนวน 2 คน ซึ่งก็คือลำดับที่ 8 และลำดับที่ 9 "พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์" จึงเป็นผู้ที่เหมาะสมในการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น วาระประจำปี พ.ศ. 2565 มากกว่าข้าราชการตำรวจในลำดับที่ 8 และลำดับที่ 9 แต่ลำดับที่ 8 และลำดับที่ 9 ได้รับการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นตามมติของ ก.ตร.
การที่ ก.ตร. มีมติเห็นชอบข้าราชการตำรวจเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นเฉพาะในส่วนที่ไม่มีรายชื่อ "พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ " รอง ผบช.ภ.8 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผบช. จึงเป็นการใช้ดุลพินิจไม่ชอบด้วยกฎหมาย