สอท.เปิดศูนย์ประสานงานพรรคสระบุรีมั่นใจเหมาส.ส.ยกจังหวัด

21 ตุลาคม 2565 "นายวัชระ กรรณิการ์" รองเลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ภาคกลาง พร้อมด้วย "นายปรพล อดิเรกสาร" ผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 จ.สระบุรี พรรคสร้างอนาคตไทย ร่วมเปิดศูนย์ประสานงานพรรคในจ.สระบุรี โดยมี "นายปองพล อดิเรกสาร" อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ นายนวกิจ พลวิเศษ ผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ผู้สมัครส.ส. จ.นครราชสีมา พรรคสร้างอนาคตไทย นักการเมืองท้องถิ่นและประชาชนในพื้นที่ร่วมแสดงความยินดี

โดยนายวัชระ กล่าวว่า การมาเปิดศูนย์ประสานงานวันนี้ (21ต.ค.) ส่วนตัวมีความดีใจอยู่ 2 เรื่อง คือ

1. ดีใจที่จะเริ่มนับหนึ่ง ส.ส.ได้จากเขต 1 จ.สระบุรี โดยมี นายปรพล ซึ่งเป็นคนหนุ่มมีอนาคตและความสามารถ เป็นผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรค

2. ดีใจที่นายปองพล กลับเข้ามาสู่วงการเมืองอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เพราะนายปองพลเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ และบารมีทางการเมือง คนแบบนี้พรรคไหนก็ต้องการมาร่วมงานด้วยทั้งนั้น

อย่างไรก็ตาม มองว่าจ.สระบุรี คือ พื้นที่ที่ตระกูลอดิเรกสารรับใช้ประชาชนมาโดยตลอด สะท้อนให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าคนตระกูลนี้รักและจริงจังกับจ.สระบุรี มาเป็นระยะเวลายาวนานหลายสิบปี วันนี้นายปรพล จะกลับมารับใช้ชาวสระบุรี จึงขอโอกาสประชาชน นอกจากจะดูความตั้งใจในปัจจุบันแล้ว ให้ดูอีกอย่างหนึ่ง คือ ผลงานที่นายปรพลและครอบครัวอดิเรกสารทำให้กับชาว จ.สระบุรี ด้วย

"วันนี้ผมและพรรคสร้างอนาคตไทย ไม่ได้คาดหวังเพียงแค่คุณปรพล จะเป็น ส.ส.หนึ่งเดียวของเมืองสระบุรี เท่านั้น หากแต่เราคาดหวังว่า ทั้ง 4 เขตเลือกตั้งของสระบุรี เราจะสามารถชนะใจประชาชนในทุกเขตได้ ด้วยตัวว่าที่ผู้สมัครที่มีคุณภาพและผลงานเป็นที่ยอมรับของประชาชนในพื้นที่ และเราจะชนะด้วยนโยบายของพรรคที่มุ่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและความยากจนของประชาชน ผมอยากเสนอให้ประชาชนคนสระบุรีเลือกผู้สมัครของพรรคสร้างอนาคตไทยทั้ง 4 เขต เพื่อสร้างทีมสระบุรีที่แข็งแกร่งทั้งทางการทำงานทางการเมืองและการนำนโยบายของพรรคมาพัฒนา เพื่อรับใช้คนสระบุรีทั้งมวล" นายวัชระ กล่าว 

ขณะที่ นายปรพล กล่าวว่า ตั้งแต่ตนร่วมงานกับพรรคสร้างอนาคตไทย เริ่มลงพื้นที่เยี่ยมเยียนประชาชนในเขตอำเภอเมือง ได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี พรรคสร้างอนาคตไทยที่นำโดย "ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" ประธานพรรค และอดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นทางเลือกใหม่ของชาวสระบุรี เพื่อช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ทุกคนเชื่อมั่นในตัว ดร.สมคิด พร้อมทั้งบุคลากรคนอื่นๆ ของพรรค รวมถึงนโยบายต่างๆ ที่สามารถทำเป็นรูปธรรมได้จริง โดยเฉพาะนโยบายกองทุนสร้างอนาคตไทย 300,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ตนเป็นส.ส.สระบุรี มา 2 สมัย ครั้งนี้มีความตั้งใจมารับใช้ชาวสระบุรีอีกครั้ง ที่ผ่านมาในช่วงทีว่างเว้นจากงานการเมือง ก็ได้พัฒนาและหาความรู้ให้กับตนเองมาตลอด โดยการเข้าศึกษาอบรมในหลักสูตรต่างๆ ทำให้มีเครือข่ายที่จะมาช่วยรับเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชน และอยากฝากบอกว่าหากมีเรื่องราวใดๆ สามารถมาพบตนได้ ที่ศูนย์ประสานงานนี้ พร้อมรับเรื่องราวร้องทุกข์และพร้อมเป็นตัวกลางประสานกับหน่วยงานต่างๆให้

ด้าน นายปองพล กล่าวว่า ส่วนตัวตนดีใจที่บุตรชายกลับเข้าสู่วงการเมืองอีกครั้ง เพื่อมารับใช้ชาว จ.สระบุรีที่คุ้นเคย ตนชอบชื่อพรรคสร้างอนาคตไทย มันมีความหมาย เพราะต้องสร้างสิ่งใหม่ อดีตสร้างไม่ได้ ต้องสร้างอนาคต จะอยู่กับที่ไม่ได้ เพราะโลกหมุน ต้องสร้างอนาคตของประเทศไทย 

"ที่นายวัชระ ประกาศว่าจะขอส.ส.สระบุรีทั้ง 4 เขต ผมเชื่อว่ามีโอกาสเป็นไปได้ เพราะเรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในวันนี้ และพรรคสร้างอนาคตไทยเป็นพรรคที่มีความชำนาญในเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องของชาวบ้านมากที่สุด ช่วงโควิดทุกคนรายได้ลดลงหมด ผมก็ลด มันทำมาหากินไม่ได้ แต่เรามีดร.สมคิด ที่อาสามาช่วยแก้เรื่องปัญหาเศรษฐกิจของประเทศไทย" นายปองพล กล่าว