
29 สิงหาคม 2565 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีหากมีการประกาศยุบสภาระหว่างกฎหมายลูกยังไม่มีผลบังคับใช้ ว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะต้องเป็นผู้ออกข้อกำหนดหากมีการยุบสภาหรือออกเป็นพระราชกำหนด (พรก.) โดยใช้กฎหมายลูกที่ กกต. เห็นชอบแล้วออก พ.ร.ก. โดยไม่มีการแก้เนื้อหาโดยเด็ดขาด ซึ่งในอดีตไม่เคยมีกรณีแบบนี้เกิดขึ้น แต่หากมีการนำมาใช้ก็จะเป็นบรรทัดฐานในอนาคต อย่างไรก็ตามตนไม่เห็นด้วยกับการออก พ.ร.ก. เพราะเกรงว่าจะเกิดการแก้ไขเนื้อหา ทั้งนี้ กฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และกฎหมายว่าด้วยพรรคการเมือง ยังมาไม่ถึงคณะรัฐมนตรี ต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ
ส่วนกรณีที่ นายแพทย์ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ เตรียมล่ารายชื่อเพื่อยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ จะทำให้กระบวนการล่าช้าหรือไม่นั้น นายวิษณุ ระบุว่า ก็เป็นส่วนที่ทำให้กระบวนการล่าช้า แต่ขณะนี้ยังไม่มีการยุบสภา พร้อมถามกลับผู้สื่อข่าวว่าตั้งคำถามเหมือน ทราบล่วงหน้าว่าจะมีการยุบสภา
นายวิษณุ ชี้แจงถึง อำนาจรักษาการนายกรัฐมนตรี ว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ มีอำนาจในการยุบสภา ปรับคณะรัฐมนตรีและมีอำนาจเต็มทุกอย่างตามทฤษฎี แต่ในทางปฏิบัติต้องพิจารณาหลายอย่างให้รอบคอบ เพราะการยุบสภาไม่ใช่การนำกระดาษมาแล้วเขียนยุบสภา แต่ต้องมีขั้นตอนทูลเกล้าฯ ถวาย และต้องมีคำอธิบายว่าเพราะเหตุใด ซึ่งตนนึกไม่ออกว่าจะมีเหตุอะไรให้เกิดการยุบสภา เพราะหากจะยุบสภาต้องนึกเหตุให้ดีตนจะได้เขียนถูก
แต่ขณะนี้ยังไม่มีเรื่องอะไร และโดยปกติแล้วจะต้องมีเหตุสภาขัดแย้งกันกับรัฐบาล หรือรัฐบาลแพ้โหวตในสภา จึงจะเป็นเหตุให้ยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชน พร้อมย้ำว่า ขณะนี้ยังมองไม่เห็น ขออย่าเชื่อข่าวลือ
นอกจากนี้ นายวิษณุ ยังกล่าวถึงกรณีที่ศาลสั่งให้ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หยุดปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากถูกกล่าวหาว่า สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐออกโฉนดที่ดินบุกรุกป่าเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่พื้นที่ จ.ปราจีนบุรี ว่า ไม่มีปัญหาอะไรเพราะ นางกนกวรรณ เป็นรัฐมนตรีช่วย เมื่อหยุดปฏิบัติหน้าที่ อำนาจก็จะกลับสู่รัฐมนตรีว่าการ และยังไม่มีเหตุให้นำไปสู่การปรับคณะรัฐมนตรี โดยรัฐมนตรีที่ถูกศาลสั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่จะถูกหักเงินไปเป็นรายวัน ตามจำนวนวันที่หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น