คณะหลอมรวมประชาชน ประกาศล้างบ้างเครือข่ายประยุทธ์ ไม่งั้นชาติเดินหน้ายาก

นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ นำ "คณะหลอมรวมประชาชน" จัดเวทีสาธารณะที่ "ลานคนเมือง"  “หยุด 8 ปี ประยุทธ์”  โดยก่อนเริ่มกิจกรรม 16.00 น. มีฝนถล่มลงมาอย่างหนักประมาณ 1 ชั่วโมงทำให้ประชาชนที่มาร่วมชุมนุมต่างกระจัดกระจายหลบฝนตามร่มไม้รอบๆ ลานคนเมือง

จากนั้น เวลา 17.00 น.นายจตุพร และนายนิติธร ร่วมกันแถลงข่าวถึงแนวทางการเคลื่อนไหว ระบุว่า  คณะหลอมรวมประชาชนได้นัดหมายประชาชน โดยจองลานคนเมือง 4 วัน ซึ่งในระหว่างนี้จะไม่ค้างคืนที่ลานคนเมือง แต่สถานที่ที่จะค้างคืนคือทำเนียบรัฐบาล ทั้งนี้คณะยืนยันว่าการนับวันเป็นนายกฯ มีวันเดียวเท่านั้นคือวันที่ 24 ส.ค.2557 เพราะมีพระราชโองการโปรดเกล้า ปฏิบัติตามมาตรา 19 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 เหมือนมาตรา 158 พ่วงมาตรา 272 ในรัฐธรรมนูญปัจจุบัน อีกทั้งมาตรา 264 ระบุชัดเจนว่าครม.ก่อนรัฐธรรมนูญ 2560 ถือเป็นครม.ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ด้วย ทั้งนี้ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ต้องการเป็นนายกตลอดชีวิตทำไมไม่เขียนในรัฐธรรมนูญว่าเป็นนายกไม่มีระยะเวลา หรือไม่ต้องการให้นับการดำรงตำแหน่งรัฐธรรมนูญชั่วคราวทำไมไม่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ หรือจะให้นับหลังเลือกตั้งทำไมไม่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่อาจอธิบายได้เป็นอย่างอื่น เพราะรัฐธรรมนูญ 2560 เขียนชัดเจน และรัฐธรรมนูญดังกล่าวผ่านการลงประชามติด้วย 

"ขอท้า พล.อ.ประยุทธ์ว่าไม่ต้องลาออกไม่ต้องยุบสภา เพื่อวัดใจประชาชนให้ลุกขึ้นมาจัดการนายกฯที่ละเมิดกติกาสูงสุดที่ตัวเองเขียนขึ้นมา ทั้งนี้เราไม่ต้องการกดดันศาล ไม่ต้องการกดดันพล.อ.ประยุทธ์ แต่ต้องการกดดันประชาชนด้วยกันเองว่าทนให้ พล.อ.ประยุทธ์อยู่แบบละเมิดกฏหมายได้อย่างไร ทั้งนี้เชื่อว่าสถานการณ์วันที่ 23-24 ส.ค.นี้ จะส่งผลให้ประเทศไม่เหมือนเดิมอีกเลย"

นายจตุพร กล่าวอีกว่า การเคลื่อนไหวต่อไปสถานการณ์เป็นตัวกำหนด ทั้งหมดขึ้นอยู่กับประชาชน หากประชาชนมีความพร้อมเราก็พร้อม ซึ่งจะเป็นวิกฤติใหญ่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่สามารถรับมือได้ ดังนั้นหากประชาชนลุกขึ้นมาเร็ว พล.อ.ประยุทธ์ก็ไปเร็ว ประเทศก็เดินหน้าต่อได้เร็ว ทั้งนี้กำลังประเมินสถานการณ์ในการขับเคลื่อนต่อไป โดยยืนยันว่าไม่สนว่า พล.อ.ประยุทธ์จะอยู่หรือไป ไม่สนการตัดสินศาลรัฐธรรมนูญแต่สนใจความพร้อมของประชาชนจะลุกฮือขึ้นวันไหน และไม่คาดหวังว่า พล.อ.ประยุทธ์จะแสดงมโนสำนึกเพราะเชื่อว่าไม่มีมโนสำนึก

นายจตุพร ยังกล่าวอีกว่า การที่คนหนุนประยุทธ์มากล่าวอ้างว่าจะเลือกตั้งอยู่แล้วมาชุมนุมทำไม ซึ่งตนเชื่อว่าแม้ไม่มีการลุกขึ้นของประชาชน การเลือกตั้งก็อาจจะไม่เกิดขึ้น และบ้านเมืองจะกลับเข้าสู่สุญญากาศอีกครั้งหนึ่ง

ด้านนายนิติธร กล่าวว่า การตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญจะมี 2 ส่วนคือส่วนของข้อเท็จจริง ที่มีการบิดเบือนจากคนสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ว่าต้องนับตั้งแต่ปี 60 หรือ ปี 62 และในส่วนของข้อกฎหมาย ก็มีความพยายามบิดเบือน โดยมีข่าวว่ามีการส่งคนไปเคลียร์กับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้นศาลรัฐธรรมนูญจะต้องคิดให้ดี ซึ่งวันนี้ตนไม่ไว้วางใจศาลรัฐธรรมนูญในคดีนี้ ขณะเดียวกันศาลรัฐธรรมนูญควรตีความตามรัฐธรรมนูญไม่ควรทำตัวเป็นรัฐธรนมนูญเสียเอง

"ฝากเรียน พล.อ.ประยุทธ์ ว่าวิกฤติประเทศทั้งหมดคุณและพวกเป็นคนเริ่มขึ้นเอง รัฐธรรมนูญนี้คุณก็เป็นคนเริ่ม หากหลังจากนี้ประเทศจะเกิดวิกฤติขึ้นคุณก็เป็นคนเริ่ม และหากคุณไม่เอากฏหมายผมก็ไม่เอากฏหมายเช่นเดียวกัน แล้วคุณกับผมเจอกัน ซึ่งผมพร้อมที่จะเข้าไปในทำเนียบรัฐบาล เป็นไงก็เป็นกัน อยากให้วิกฤติก็พร้อมวิกฤติ"

เมื่อถามถึงกรณีตำรวจออกประกาศควบคุมการชุมนุมนั้น นายนิติธร กล่าวว่า วันนี้คุณออกประกาศ ตนทำตามทุกข้อ แต่หากหลังวันที่ 24 ส.ค.นี้ ก็ขอให้ ตำรวจ ขอให้ ผบ.ตร.ช่วยประชาชนโดยการออกประกาศว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่สามารถเข้าทำเนียบได้ เพราะไม่มีสถานะนายกฯแล้ว หากไม่อยากให้เราไปทำเนียบก็ให้ออกประกาศจัดการกับ พล.อ.ประยุทธ์แบบนี้ หากไม่ออกประกาศเรื่องนี้ตนก็จะไม่เคารพประกาศของตำรวจเช่นกัน

เมื่อถามว่ากังวลว่าจะมีการสลายการชุมนุมหรือไม่ นายนิติธร กล่าวว่า ใครจะทำ ใครจะสลายการชุมนุม ก็ลองประกาศออกมา ยืนยันว่าเราไม่ต้องการทำอันตรายหรือใช้ความรุนแรงต่อพล.อ.ประยุทธ์ แต่จะเป็นการใช้อำนาจตามอธิปไตยของปวงชนชาวไทย แต่หากตำรวจอยากให้นองเลือด ก็ทำเลย อยากให้บ้านเมืองเต็มไปด้วยกลิ่นแก๊สน้ำตาก็ทำเลย จะได้รู้ถึงพลังของประชาชน อย่างไรก็ตามยืนยันว่าการขับเคลื่อนในครั้งนี้ไม่มีข้อกังวล ทำด้วยความสบายใจ เพราะทำเรื่องถูกต้องทำเพื่อประโยชน์ของคนทั้งชาติ ดังนั้นจึงไม่มีเรื่องอะไรกังวล

เมื่อถามว่าหากหลังจากนี้มีนายกฯ มาจากกลุ่ม 3ป. หรือพรรครัฐบาลขึ้นมาเป็นนายกฯแทนพล.อ.ประยุทธ์จะทำอย่างไร นายนิติธร กล่าวว่า วันนี้ต้องเปลี่ยนใหม่ ต้องล้างกันใหม่ ภารกิจคณะหลอมรวมประชาชนไม่ได้หยุดที่ พล.อ.ประยุทธ์เท่านั้น แต่จัดการบริวารว่านเครือทั้งหมด ถ้าไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงประเทศได้

ขณะที่นายเจ๋ง ดอกจิก ได้ขึ้นกล่าวปราศรัย โดยมีประเด็นในการโจมตีพลเอกประยุทธ์ ช่วงสุดท้ายก่อนลงจากเวที ได้มีการจุดธูปสาปแช่ง โดยระบุว่า

“ใครที่คิดช่วยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้อยู่รอด ละเมิดกฏหมายรัฐธรรมนูญขอให้ชิบหาย ตายโหงทั้งครอบครัว ทำมาหากินไม่ได้ หาเงินมาได้เท่าไหร่ให้นำไปรักษาโรคมะเร็งให้หมด โดยขอให้มีอันเป็นไปทั้งครอบครัว รวมถึงนักกฏหมายคนใดไม่ช่วยดำรงความยุติธรรมตามหลักกฏหมายโดยชอบ แต่หากใครที่ไม่ช่วยเหลือจนพลเอกประยุทธ์ จนไม่สามารถผ่านเรื่องในครั้งนี้ไปได้ ขอให้มีความสุขความเจริญ"

จากนั้นเป็นเวลา 18.00 น. แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน ได้ขึ้นเวทีนำประชาชน กลุ่มผู้ชุมนุม ยืนตรงร้องเพลงเคารพธงชาติ