svasdssvasds
logo-pwa

เพิ่ม nation online

ลงในหน้าจอหลักของคุณ

ติดตั้ง
ปิด
เนชั่นทีวี

การเมือง

"อุดม"ยื่นอุทธรณ์สู้คดีใบเหลืองนายกอบจ.สมุทรสาคร

15 กุมภาพันธ์ 2565
211

นายก อบจ.สมุทรสาคร มั่นใจความบริสุทธิ์ เตรียมยื่นอุทธรณ์คดีกกต.แจกใบเหลือง ข้องใจคณะกรรมการการเลือกตั้งใหญ่ให้เลือกตั้งใหม่ ทั้งที่กกต.จังหวัดยกคำร้อง ย้ำไม่มีส่วนได้เสียกับข้อกล่าวหา

15 กุมภาพันธ์ 2565 นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมุทรสาคร เปิดเผยภายหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.ฉ แจกใบเหลือง ว่า ส่วนตัวรู้สึกประหลาดใจที่ได้ใบเหลือง เพราะทราบมาว่า กกต.จังหวัดสมุทรสาคร ยกคำร้อง กกต.ซึ่งเป็นเจ้าของสำนวนก็ยกคำร้อง แต่จู่ๆ กกต.ชุดใหญ่ 7 คน กลับให้ใบเหลือง ดังนั้น ตนต้องไปพึ่งศาลอุทธรณ์ภาค 7 ต่อไป 

 

อย่างไรก็ตาม เท่าที่ตรวจสอบข้อมูล ถูกกล่าวหาพบว่า คนที่ กกต. ระบุว่าลงคะแนนให้ตนเอง ทำให้ได้ประโยชน์นั้น ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะบุคคลดังกล่าวไม่ได้มาลงคะแนนเลือกตั้ง เนื่องจากกลัวโควิดที่ระบาดหนัก ใน จ.สมุทรสาคร ช่วงเลือกตั้ง 

 

"ผมเชื่อมั่นศาลอุทธรณ์ภาค 7 จะให้ความยุติธรรมกับผม เพราะไม่มีส่วนได้เสียงกับเรื่องดังกล่าวจนทำเหตุให้แพ้หรือชนะเลือกตั้งได้ หลังจากได้ใบเหลืองได้มีชาวบ้านโทรมาให้กำลังใจจำนวนมาก ตนก็ได้ยืนยันความบริสุทธิ์พร้อมให้ความเชื่อมั่นว่าจะต่อสู้ต่อไปไม่เสียกำลังใจเพราะที่ผ่านมาถูกกระทำมาเยอะแล้ว" นายอุดม กล่าว

ทั้งนี้ เว็บไซต์ กกต. ได้เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต. ให้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ หรือศาลอุทธรณ์ภาค เพื่อสั่งให้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมุทรสาครใหม่ แทน นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ และสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของ นายสุรวัช เรืองศรี สมาชิกสภา อบจ. อ.กระทุ่มแบน เขตเลือกตั้งที่ 5 ตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 108 วรรคสอง รวมทั้งให้ดำเนินคดีอาญากับ นายสุรวัช ตามมาตรา 65(1) ประกอบมาตรา 126

 

"อุดม"ยื่นอุทธรณ์สู้คดีใบเหลืองนายกอบจ.สมุทรสาคร

 

เนื่องจากข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ประมาณเดือน ต.ค.-พ.ย. 2563 มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้โทรศัพท์ติดต่อโรงเรียนแห่งหนึ่ง เพื่อย้ายนักเรียนซึ่งเป็นหลานสาวเข้าเรียน ซึ่งโรงเรียนดังกล่าวแนะนำว่า นักเรียนต้องมีชื่อในทะเบียนบ้านในเขตเทศบาลเมืองกระทุ่มแบน ผู้มีสิทธิคนดังกล่าวจึงได้ติดต่อ นายสุรวัช และได้รับคำแนะนำว่าให้ไปพบกับบิดาตน ซึ่งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองกระทุ่มแบน

 

หลังจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวได้พบกับบิดาของนายสุรวัช แล้วก็ได้ไปติดต่อที่สำนักทะเบียนดำเนินการย้ายชื่อนักเรียนคนดังกล่าว เข้าบ้านเลขที่ของโรงเรียนและสมัครเข้าเรียนที่โรงเรียนดังกล่าว จากนั้นผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวได้ส่งข้อความขอบคุณนายสุรวัช ทางแอพพลิเคชั่นไลน์ ที่ นายสุรวัช และบิดา ของนายสุรวัฒน์ ช่วยเหลือให้หลานสาวได้เข้าโรงเรียนตามที่ประสงค์

 

โดยปรากฏภาพการสนทนาที่ นายสุรวัช ได้นำไปโพสต์ในบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ "สุรวัช เรืองศรี" เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2563 ประกอบกับจากการตรวจสอบใบแจ้งการย้ายที่อยู่ปรากฏว่า ในช่องลงชื่อเจ้าบ้านยินยอมให้ย้ายเข้า มีการพิมพ์ชื่อของเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองกระทุ่มแบนเป็นผู้ได้รับมอบหมาย ซึ่งน่าเชื่อว่าบิดาของนายสุรวัฒน์ได้ดำเนินการช่วยเหลือย้ายชื่อของนักเรียนคนดังกล่าว เข้าทะเบียนบ้านของโรงเรียนแห่งหนึ่ง เพื่อให้นักเรียนคนดังกล่าวมีหลักเกณฑ์ที่สามารถเข้าเรียนได้

 

การที่ นายสุรวัช โพสต์บทสนทนาระหว่างตนกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวในบัญชีเฟซบุ๊กของตนว่า "ได้ช่วยฝากหลานของผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวเข้าโรงเรียนเรียบร้อยแล้ว และขอให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวลงคะแนนให้แก่นายอุดม" การกระทำของนายสุรวัช จึงมีลักษณะเป็นการแสวงหาคะแนนนิยมจากประชาชนหรือสมาชิกในกลุ่มเฟซบุ๊ก ที่พบเห็นให้ลงคะแนนให้แก่นายอุดม

 

จึงเข้าลักษณะเป็นการจัดทำ ให้ เสนอให้สัญญา ว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่นายอุดม ซึ่งเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 65(1) โดย นายอุดม ย่อมได้รับประโยชน์ในการเลือกตั้งจากการกระทำของนายสุรวัช เป็นเหตุให้ผลการเลือกตั้งนายก อบจ.สมุทรสาคร ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ นายอุดม เกิดจากการเลือกตั้งที่ไม่ได้เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรมตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 108 วรรคสอง