เพิ่ม nation online
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
สำหรับประเด็นนี้ มีความเคลื่อนไหวจากทางด้าน นายจิตชาย มุกสิกบุตร รองกรรมการผู้อำนายการสายงานบริหารด้านกฎหมายและเลขานุการบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ขณะนี้ มีผู้ถือหุ้นสอบถามมายังบริษัทจำนวนมากเนื่องจากข่าวในวันที่ 7 กันยายน 2564 ที่แจ้งว่า
คณะรัฐมนตรี ได้มีมติสำหรับแนวทางดำเนินการตามสัญญาดำเนินกิจการ ดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ (สัญญาสัมปทานดาวเทียม”) กรณีการอนุมัติแก้ไขสัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ (การแก้ไขสัญญาฉบับที่ 5) โดยเห็นควรให้ บริษัท ถือหุ้นใน บมจ. ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 51 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดนั้น
บริษัทฯ ขอเรียนว่า บริษัทฯ และบมจ.ไทยคม เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ การดำเนินการที่สำคัญใดๆ ต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท และ/หรือ ที่ประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเสียก่อน ประกอบกับสัญญาสัมปทานดาวเทียมกำลังจะสิ้นสุดลงตามอายุของสัญญาในวันที่ 10 กันยายน 2564 นี้ จึงต้องพิจารณาถึงเงื่อนไขและเงื่อนเวลาในการดำเนินการนั้นด้วย
ทางบริษัทฯ ยังไม่ได้รับหนังสือ หรือ เอกสารใดๆ จาก กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด โดยหากมีความชัดเจนหรือได้รับทราบในรายละเอียดของมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องดังกล่าว บริษัทฯ จะชี้แจงให้ผู้ถือหุ้นทราบต่อไป
แม้ สัมปทานดาวเทียมไทยคม 4 และดาวเทียมไทยคม 6 จะสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในวันที่ 10 กันยายน นี้ แต่ บมจ.อินทัชฯ ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) จะสู้ศึกคำสั่ง ครม. ที่มีมติให้เพิ่มหุ้น “ไทยคม” ไม่ต่ำกว่า 51% ได้หรือไม่
เรื่องนี้น่าจะเป็นมหากาพย์อีกยาวนาน คนไทยคงต้องจับตาเรื่องนี้กันต่อไป
กระแสของราคาหุ้นของทั้งสองฟากฝั่ง ผู้สื่อข่าวศก. รายงานข้อมูลล่าสุด ช่วงเปิดตลาดราคาหุ้น INTUCH เปิดตลาดอยู่ที่ 90 บาท ขณะที่ บมจ.ไทยคม อยู่ที่ 11.60 บาท