ทรัมป์ สั่งปิดล้อมเวเนซุเอลา สหรัฐฯ บุกยึดเรือน้ำมันกลางทะเล

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กองกำลังสหรัฐฯ ได้บุกเข้าสกัดและยึดเรือบรรทุกน้ำมันในน่านน้ำสากลนอกชายฝั่ง เวเนซุเอลา เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามคำยืนยันของ คริสตี โนม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ โดยระบุว่าเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการเด็ดขาดตามคำสั่งของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ประกาศ "ปิดล้อม" (Blockade) เรือบรรทุกน้ำมันทุกลำที่ละเมิดมาตรการคว่ำบาตร

เรือที่ถูกยึดในครั้งนี้เชื่อว่าเป็นเรือ "Centuries" ติดธงปานามา ซึ่งบรรทุกน้ำมันดิบ Merey กว่า 1.8 ล้านบาร์เรล มุ่งหน้าไปยังประเทศจีน โดยทางการสหรัฐฯ ระบุว่าเรือลำนี้เป็นส่วนหนึ่งของ "กองเรือเงา" (Shadow Fleet) ที่ใช้ชื่อปลอมในการขนส่งน้ำมันเถื่อนเพื่อนำเงินไปสนับสนุนรัฐบาลภายใต้การนำของ นายนิโคลัส มาดูโร

เวเนซุเอลาโต้กลับ ประณามสหรัฐฯ ก่อเหตุโจรสลัดสากล

ด้านรัฐบาลเวเนซุเอลาได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้ทันควัน โดยประณามการกระทำของสหรัฐฯ ว่าเป็น "อาชญากรรมโจรสลัดสากล" และเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างรุนแรง พร้อมแจ้งว่าเหตุการณ์นี้ถือเป็นการลักพาตัวลูกเรือและขโมยทรัพย์สินส่วนบุคคล ซึ่งเตรียมจะนำเรื่องนี้เข้าเสนอต่อสภาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ต่อไป

ความตึงเครียดครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่ออุตสาหกรรมพลังงาน โดยมีรายงานว่าเรือบรรทุกน้ำมันจำนวนมากในกองเรือเงาต่างหยุดนิ่งอยู่ภายในเขตน่านน้ำเวเนซุเอลา เนื่องจากเกรงว่าจะถูกกองทัพสหรัฐฯ บุกยึดหากเคลื่อนตัวออกมาสู่ทะเลเปิด

จับตาราคาน้ำมันโลกและแผนการโจมตีทางบก

ผู้เชี่ยวชาญมองว่าการปิดล้อมครั้งนี้อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันโลกพุ่งสูงขึ้น หากการส่งออกน้ำมันเกือบ 1 ล้านบาร์เรลต่อวันจากเวเนซุเอลาต้องหยุดชะงักไปในระยะยาว นอกจากนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ยังได้ส่งสัญญาณเตือนว่าสหรัฐฯ อาจเริ่มยุทธการโจมตีทางบกต่อประเทศในอเมริกาใต้แห่งนี้ในเร็วๆ นี้

ปัจจุบันกองทัพสหรัฐฯ ได้เพิ่มกำลังพลในภูมิภาคและมีการปฏิบัติการทางทหารต่อเรือในมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลแคริบเบียนไปแล้วหลายครั้ง ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 100 ราย ท่ามกลางการเฝ้าระวังของนานาชาติว่าสถานการณ์จะบานปลายไปสู่สงครามเต็มรูปแบบหรือไม่