svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

ทรัมป์ไม่รามือ จะฟ้องเรียกค่าเสียหาย BBC ถึง 5 พันล้านดอลลาร์

แม้ว่า BBC จะขอโทษต่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กรณีตัดต่อสุนทรพจน์ของเขาในรายการ Panorama แต่ทรัมป์ยังไม่พอใจ และเตรียมจะเรียกค่าเสียหายเป็นสูงถึง 5 พันล้านดอลลาร์

15 พฤศจิกายน 2568 บรรษัทกระจายเสียงแห่งอังกฤษ หรือ BBC ได้ขอโทษประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กรณีการตัดต่อสุนทรพจน์ของเขา เมื่อวันที่ 6 มกราคม ปี 2524 ที่ออกอากาศในรายการ "พาโนรามา" นำไปสู่การลาออกของทิม เดวี ผู้อำนวยการใหญ่ และเดโบราห์ เทอร์เนสส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายข่าว เพื่อแสดงความรับผิดชอบ หลังจากทรัมป์ ขู่ว่าจะฟ้องเรียกค่าเสียหาย 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 32,000 ล้านบาท โดยระบุว่า การตัดต่อทำให้เกิด "ความเข้าใจผิดว่าประธานาธิบดีทรัมป์ เรียกร้องให้เกิดความรุนแรงโดยตรง" และยืนยันว่าจะไม่มีการออกอากาศสารคดีเจ้าปัญหานี้อีก หลังจากออกอากาศครั้งแรก ในปี 2567

 

โดนัลด์ ทรัมป์

ทิม เดวี

 

แต่แม้จะยอมรับผิด แต่ BBC ได้ปฏิเสธที่จะจ่ายค่าเสียหาย โดยระบุว่า "แม้ BBC จะเสียใจอย่างจริงใจต่อการตัดต่อคลิปวิดีโอ แต่เราไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งว่ามีเหตุผลเพียงพอสำหรับการกล่าวหาว่านี่เป็นการหมิ่นประมาท"

 

เดโบราห์ เทอร์เนสส์

 

โดย ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์  Fox News ว่า คำพูดของเขา "ถูกยำเข้าด้วยกัน" และวิธีการที่คำพูดของเขาถูกนำเสนอ "เป็นการหลอกลวง" ผู้ชม ล่าสุด เขาได้บอกกับผู้สื่อข่าวของสื่ออังกฤษ Telegraph ในขณะอยู่บนเครื่องบินประจำตำแหน่ง "Air Force One" ขณะเดินทางกลับไปคฤหาสน์ มาร์-อา-ลาโก ที่รัฐฟลอริดาว่า เขาจะเรียกร้องค่าเสียหายอย่างเป็นทางการจาก BBC ภายในสัปดาห์หน้า เป็นเงินระหว่าง 1,000-5,000 ล้านดอลลาร์ โดยบอกว่า "ผมคิดว่าผมจำเป็นต้องทำ" และยังเสริมด้วยว่า เซอร์เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ "รู้สึกอับอายมาก" กับเรื่องอื้อฉาวนี้

ทรัมป์ไม่รามือ จะฟ้องเรียกค่าเสียหาย BBC ถึง 5 พันล้านดอลลาร์

 

ทรัมป์ พูดถึงเรื่องนี้ด้วยความขุ่นเคืองว่า "พวกเขาเปลี่ยนคำพูดที่ออกมาจากปากผม" .... "เราจะฟ้องร้องพวกเขาเป็นเงินระหว่าง 1,000-5,000 ล้านดอลลาร์ฯ น่าจะเป็นช่วงสัปดาห์หน้า" และ "ผมคิดว่าผมต้องทำ พวกเขายังยอมรับว่าหลอกลวง... พวกเขาเปลี่ยนคำพูดที่ออกมาจากปากผม".... "ประชาชนในสหราชอาณาจักรโกรธแค้นอย่างมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น อย่างที่คุณคงนึกภาพออก เพราะมันแสดงให้เห็นว่า BBC เป็นข่าวปลอม"