
คนแรกคือ วัน มรณา หรือ เช็ง เสร็ยรวต แม่ค้าเครื่องสำอางวัย 40 ปี ที่ผันตัวเองมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ จากการเป็นเจ้าของแบรนด์ "Love Riya" ที่นำเข้าเครื่องสำอางไทยไปขายสร้างรายได้มหาศาล ใช้ชีวิตกินหรูอยู่สบาย ใส่ส้นสูงเยี่ยมค่ายทหาร เอาเงินไปบริจาคให้ตำรวจท่องเที่ยวปราสาทพระวิหารถึง 4 ล้านเรียล หรือกว่า 3 หมื่นกว่าบาท ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่สูงมากสำหรับชาวกัมพูชา นอกจากนี้ยังทำตัวเป็น "เครื่องด่า" ทะเลาะกับคนไทยผ่าน Tik Tok จนได้รับการยกย่องจากเพื่อนร่วมชาติว่าเป็นวีรสตรี
ตอนแรกเธอออกหน้าทำตัวเป็นศัตรูกับชาวโซเชียลมีเดียของไทย เพราะโกรธที่เรียกเธอว่า "วัน มรณา" เพราะที่จริงเธอมีฉายาเป็นภาษาไทยว่า "คุณแม่ มณิราษฎร์" ทั้งยังมีบรรดาศักดิ์เป็น "ออกญา" ส่วนสามีของเธอ คือ "พลจัตวา เฮง กิมเหียง" และวันที่เธอใส่เครื่องแบบทหารกับรองเท้าส้นสูง ที่โดนชาวเน็ตไทยเอาไปล้อ เธอก็อ้างว่า เป็นแค่ "คอสเพลย์โปรโมทแบรนด์ครีม" เท่านั้น
แต่ชาวเน็ตก็ยังตั้งคำถามไม่หยุดว่า แล้วตกลงสามีเธอเป็นอะไรกันแน่ ระหว่างทหาร ตำรวจ หรือแค่นักคอสเพลย์ที่ช่วยเมียโปรโมตครีม เพราะเป็นระดับนายทหาร แต่ไม่เห็นมีภาพการทำงานสักวัน .... วันๆ เอาแต่ช่วยเมียขายครีม ทำให้เครื่องด่าของ "วัน มรณา" ทำงานไม่พัก
แต่เหมือนชะตาลิขิต เมื่อ "วัน มรณา" ประเมินตัวเองสูงเกินไป ถึงขั้นปีนเกลียวขึ้นไปตั้งคำถามกับ "ฮุน เซน" ผู้กุมอำนาจสูงสุดของประเทศ เกี่ยวกับตัวเลขที่แท้จริงของผู้เสียชีวิตในเหตุปะทะกันตามแนวชายแดนด้านที่ติดกับไทย และก็เป็นไปตามที่รู้กัน คือเธอถูกจับและถูกสั่งฟ้อง "ฐานยุยงให้เกิดการเลือกปฏิบัติ และทำลายขวัญกำลังใจของกองทัพ" แต่วิบากกรรมไม่ได้จบแค่นั้น เพราะล่าสุด เธอถูก "กษัตริยนโรดม สีหมุนี" ผู้อยู่ใต้เงาของ "ฮุน เซน" สั่งริบเครื่องราชอิสริยาภรณ์
ณ ตอนนี้ อนาคตของ "วัน มรณา" สูญสลายไปพร้อมกับเกียรติยศและศักดิ์ศรี จากวีรสตรี กลายเป็น "ขี้คุก" เพียงเพราะเหิมเกริมไป "ฟาด" ผิดคน ไม่ถึงกับ "มรณา" ตามฉายา ก็ถือว่าบุญแล้ว
ดาวอับแสงอีกคน คือ นักข่าวตัวจี๊ด "เมียะห์ ซาราห์" ฉายา "ปากไวพูดตรง" เป็นนักข่าวภาคสนามที่รายงานข่าวเจาะลึกจากชายแดนกัมพูชา-ไทย แต่ล่าสุด กลับถูกทางการกล่าวหาว่า "ละเมิดจรรยาบรรณวิชาชีพสื่อมวลชนอย่างร้ายแรง" ฐานเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ไม่มีแหล่งที่มาที่ตรวจสอบได้ ทำให้สาธารณชนเข้าใจผิดและยุยงปลุกปั่น อีกทั้งยังส่งผลกระทบในทางลบต่อความมั่นคงของชาติอีกด้วย
จากนักข่าวที่เคยเฟียส กลับเปลี่ยนท่าทีเป็นลนลาน ตอนที่เรียกร้องผ่านโซเชียล มีเดียว่า "ผม เมียะห์ ซาราห์ ฉายาปากไวพูดตรง ขอให้พี่น้องช่วยแชร์ข่าวนี้ วิดีโอนี้ เพื่อให้ถึงสมเด็จทั้งสอง โดยเฉพาะสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน ถ้าสมเด็จไม่สงสารผม ก็ควรสงสารลูกผมด้วย ยังเล็กมาก เล็กมากๆ เพิ่งเกิดได้แค่ 6 วันเอง...ขอให้สมเด็จได้โปรดเมตตาลูกนกตัวน้อย ๆ ด้วยเถิด"
ในโพสต์ระบุอีกว่า "มาถึงตอนนี้... ผมสูญเสียทุกอย่าง ไม่รู้จะไปทำอะไรดี... ถ้าพี่น้องคนไหนมีงานให้ผมทำได้ ช่วยบอกผมที...ในช่วงเวลานี้... งานอะไรผมก็ทำ ขอแค่ได้รายได้ไว้เลี้ยงดูภรรยาและลูก ผมทำได้หมด"
ส่วนความผิดของเมียะ ซาราห์ คาดว่า น่าจะมาจากการรายข่าวของเขาทำให้เกิดกระแสไม่สบายใจไปทั่วประเทศ เพราะคิดว่า กัมพูชา "เสียดินแดนให้ไทย" กรณีไทยล้อมรั้ว และไล่พวกเขาออกจากพื้นที่รุกล้ำ