
เสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศดังทั่วกรุงเคียฟของยูเครนช่วงกลางดึกถึงเช้ามืดวันอาทิตย์ (25 พฤษภาคม) ขณะหลายพื้นที่ทั่วยูเครนเผชิญการโจมตีทางอากาศด้วยโดรนและขีปนาวุธจากรัสเซียเป็นคืนที่ 2 ติดต่อกัน และทางการยูเครน รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 คน และผู้บาดเจ็บ 43 คน จากการโจมตีของรัสเซียทั่วยูเครนในวันนี้ หลังจากมีผู้เสียชีวิต 13 คน จากการโจมตีเมื่อวันเสาร์
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ออกแถลงการณ์เช้าวันอาทิตย์ ระบุว่า หน่วยกู้ภัยกำลังปฏิบัติหน้าที่ในกว่า 30 เมืองและหมู่บ้าน หลังการโจมตีครั้งใหญ่ของรัสเซีย พร้อมทั้งบอกว่า รัสเซียกำลังพยายามลากสงครามให้ยืดเยื้อต่อไป และยังคงเข่นฆ่าประชาชนทุกวัน ซึ่งโลกไม่ควรเพิกเฉยสิ่งนี้
กองทัพอากาศยูเครน เผยว่า นับจากเวลา 20.40 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น รัสเซียยิงขีปนาวุธหลายชนิด และส่งอากาศยานไร้คนขับและโดรนรวม 367 หน่วยโจมตีทั่วยูเครน และกองทัพสามารถสกัดไวได้ส่วนใหญ่ โดยกรุงเคียฟถูกโจมตีหนักที่สุดครั้งหนึ่งในสงครามที่ยืดเยื้อกว่า 3 ปี
การโหมโจมตีระลอกล่าสุดมีขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย เผชิญแรงกดดันจากนานาชาติ ให้ยอมรับข้อเสนอหยุดยิงและยุติสงคราม แต่ยังคงยืนยันปฏิเสธ
ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซีย เผยว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศสามารถยิงทำลายหรือสกัดโดรน 95 ลำของยูเครน ที่โจมตีหลายแห่งในรัสเซีย รวมถึงกรุงมอสโก ระหว่างการโจมตีช่วง 4 ชม.ในคืนวันเสาร์ แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือผู้บาดเจ็บ และการโจมตีทำให้ต้องระงับเที่ยวบินทั้งหมดในสนามบิน 4 แห่งในกรุงมอสโกช่วงสั้น ๆ
การโจมตีของรัสเซียมีขึ้นในขณะที่รัสเซียและยูเครนแลกเปลี่ยเชลยสงครามตามที่ตกลงกันในการเจรจาระหว่างสองฝ่ายที่นครอิสตันบุลของตุรกี ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี
เมื่อวันศุกร์ทั้งยูเครนและรัสเซียปล่อยตัวทหารและพลเรือนของแต่ละฝ่ายกว่า 390 คน ซึ่งเป็นการแลกตัวเชลยสงครามครั้งใหญ่ที่สุด นับจากรัสเซียบุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 และเมื่อวันเสาร์ สองฝ่ายปล่อยตัวเชลยฝ่ายละ 307 คน
ล่าสุดกระทรวงกลาโหมรัสเซีย แถลงว่า รัสเซียและยูเครนแลกเปลี่ยนเชลยศึกฝ่ายละ 303 คนในวันอาทิตย์ ถือเป็นการเสร็จสิ้นการปล่อยตัวเชลยฝ่าย 1,000 คน ตามข้อตกลงที่บรรลุผลเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม
ในสัปดาห์นี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีปูตินนาน 2 ชม. เพื่อหวังโน้มน้าวให้ยอมรับข้อตกลงหยุดยิง และอ้างว่า ทั้งรัสเซียและยูเครน จะเริ่มการเจรจาทันทีเพื่อนำไปสู่การหยุดยิงและยุติสงคราม แต่ปูติน บอกเพียงว่า รัสเซียจะร่วมมือกับยูเครนเพื่อจัดทำบันทึกความเข้าใจที่จะนำไปสู่สันติภาพ แต่ยังไม่ยอมรับข้อเสนอของสหรัฐฯ ที่ให้หยุดยิงนาน 30 วัน