Liberty Justice Center ซึ่งเป็นองค์กรที่ปรึกษาทางกฎหมาย เป็นตัวแทนของธุรกิจ 5 รายในสหรัฐฯ ยื่นฟ้องที่ศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ เพื่อหาทางยับยั้งมาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่บังคับใช้โดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายอำนาจฉุกเฉินทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ หรือ IEEPA
IEEPA ให้อำนาจประธานาธิบดีใช้อำนาจฉุกเฉินทางเศรษฐกิจเพื่อตอบสนองต่อภัยคุกคามพิเศษที่ไม่ปกติต่อความมั่นคงหรือเศรษฐกิจของชาติ
แต่คำฟ้องระบุว่า คำอ้างของรัฐบาลเรื่องการขาดดุลการค้ากับต่างประเทศ ไม่เข้าข่ายสถานการณ์ฉุกเฉินที่จะสามารถใช้อำนาจตามกฎหมายฉบับนี้ได้ และประธานาธิบดียังก้าวล่วงอำนาจของรัฐสภาในการประกาศขึ้นภาษีศุลกากร ทั้งที่ประธานาธิบดีไม่มีอำนาจเรื่องนี้ กฎหมายไม่ได้ให้อำนาจประธานาธิบดีขึ้นภาษีฝ่ายเดียวที่ส่งผลกระทบทั่วโลกในวงกว้างขนาดนี้ และการขึ้นภาษีของทรัมป์ส่งผลกระทบถึงประเทศที่สหรัฐฯ ไม่ได้ขาดดุลการค้าด้วย ยิ่งทำลายความชอบธรรมของรัฐบาลในการบังคับใช้มาตรการภาษี
ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีพื้นฐานอย่างน้อย 10% สำหรับสินค้านำเข้าจากประเทศส่วนใหญ่ และขึ้นภาษีตอบโต้กับอีกราว 60 ประเทศ ที่สร้างความเสียหายอย่างมากต่อธุรกิจขนาดเล็กทั่วสหรัฐฯ
คดีนี้ไม่ใช่คดีแรกที่ยื่นฟ้องเพื่อคัดค้านการขึ้นภาษีศุลกากรของทรัมป์ โดยเมื่อวันที่ 3 เมษายน องค์กรสิทธิพลเรือน New Civil Liberties Alliance (NCLA) เป็นตัวแทนของบริษัทซิมพลิฟายด์ในรัฐฟลอริดา ยื่นฟ้องต่อศาลในรัฐฟลอริดา โดยกล่าวหาว่าประธานาธิบดีทรัมป์ใช้อำนาจอย่างไม่ถูกต้อง, และละเมิดสิทธิของรัฐสภาที่มีอำนาจกำหนดเรื่องภาษี และละเมิดรัฐธรรมนูญในประเด็นการแบ่งแยกอำนาจฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ