ทรัมป์-มาครง หารือยุติสงครามยูเครน แต่ยังมีจุดเห็นต่าง

ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสเป็นผู้นำยุโรปคนแรกที่เยือนทำเนียบขาวนับจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง โดยทั้งสองพบหารือและแถลงข่าวร่วมกันเมื่อวันจันทร์ (24 กุมภาพันธ์) ในวันครบรอบ 3 ปีของสงครามยูเครน และเห็นพ้องกันว่าต้องการให้เกิดสันติภาพในยูเครน แต่มาครงบอกด้วยว่า สันติภาพต้องไม่ใช่การพ่ายแพ้ของยูเครน ข้อตกลงสันติภาพจำเป็นต้องมีหลักประกันความมั่นคง ไม่ต้องการข้อตกลงที่ไร้น้ำหนัก และข้อตกลงสันติภาพใด ๆ ต้องประเมิน ตรวจสอบและพิสูจน์ได้

นอกจากนี้มาครง บอกด้วยว่า ยุโรปพร้อมเป็นหุ้นส่วนที่เข็มแข็งขึ้น และแบกรับภาระมากขึ้นในการปกป้องและคุ้มครองทั้งทวีป

ขณะที่ทรัมป์ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับหลักประกันความมั่นคงแก่ยูเครน นอกจากบอกว่า ค่าใช้จ่ายและภาระปกป้องสันติภาพในยูเครนควรอยู่ในความรับผิดชอบของชาติยุโรป ไม่ใช่สหรัฐฯ

แต่ผู้นำทั้ง 2 เห็นตรงกันว่า ข้อตกลงสันติภาพควรรวมถึงการส่งทหารรักษาสันติภาพของยุโรปไปประจำการในยูเครน ซึ่งเป็นข้อเสนอที่รัสเซียคัดค้าน ขณะที่มาครงย้ำว่า ทหารจะไม่ประจำการในแนวหน้าและไม่เข้าร่วมการสู้รบใด ๆ และมีไว้เพื่อให้มั่นใจว่า ข้อตกลงสันติภาพได้รับการเคารพเท่านั้น และทรัมป์ บอกด้วยว่า เขาเชื่อว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน จะยอมเปิดรับประเด็นนี้

ทรัมป์ บอกระหว่างแถลงข่าวด้วยว่า เขาอยากเห็นการหยุดยิงชั่วคราวโดยเร็วเท่าที่เป็นไปได้ รวมทั้งอยากเยือนรัสเซียเพื่อพบประธานาธิบดีปูตินเมื่อบรรลุข้อตกลง

ทรัมป์บอกด้วยว่า เขาเชิญประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนเยือนทำเนียบขาวเพื่อสรุปข้อตกลงเรื่องการแบ่งสรรทรัพยากรธรรมชาติกับสหรัฐฯ เพื่อแลกกับความช่วยเหลือในช่วงสงคราม ซึ่งการเยือนอาจมีขึ้นในสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้า

แม้การพบปะกับทรัมป์และมาครงจะไม่ได้มีช่วงโต้แย้งกันอย่างหนัก แต่ผู้นำฝรั่งเศสต้องขัดจังหวะเมื่อทรัมป์เกริ่นว่า ยุโรปให้ความช่วยเหลือยูเครนในรูปเงินกู้ทั้งหมด และพวกเขาต้องการเงินคืน ก่อนเข้าประเด็นว่าสหรัฐฯ กำลังจะทำข้อตกลงเรื่องแบ่งรายได้ทรัพยากรกับยูเครน ทำให้มาครงต้องคว้าแขนทรัมป์และพูดแทรกว่า จริง ๆ แล้ว ยุโรปจ่ายถึง 60% ของความช่วยเหลือ และเหมือนสหรัฐฯ ที่ให้ทั้งเงินกู้ ค้ำประกัน และเงินให้เปล่า

มาครงเร่งรีบเยือนสหรัฐฯ หลังจากทรัมป์สร้างความกังวลไปทั่วโลก โดยแสดงความพร้อมฟื้นฟูการทูตกับรัสเซีย และจัดการหารือระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซีย เพื่อยุติสงครามยูเครน โดยไม่ให้ยูเครนและยุโรปเข้าร่วม รวมทั้งสนับสนุนจุดยืนหลายประเด็นของรัสเซียเกี่ยวกับสงครามยูเครน จนเกิดความวิตกว่า ทรัมป์ต้องการเร่งรัดทำข้อตกลงยุติสงคราม ที่อาจทำลายอธิปไตยของยูเครน