รองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ ของสหรัฐฯ กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมสุดยอดปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่กรุงปารีสของฝรั่งเศสในวันอังคาร (11 กุมภาพันธ์) โดยประกาศว่า สหรัฐฯ จะยังคงรักษาความเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยี AI และคัดค้านอย่างหนักต่อระเบียบข้อบังคับที่มากเกินไปของสหภาพยุโรป (อียู) เขาบอกด้วยว่า ข้อบังคับที่มากเกินไปอาจฆ่าอุตสาหกรรม AI ที่กำลังเติบโตได้
นอกจากนี้เขายังวิจารณ์ถึงจีนด้วย โดยเตือนไม่ให้ผู้นำโลกทำข้อตกลเอไอกับรัฐบาลเผด็จการ เพราะการเป็นหุ้นส่วนกับรัฐบาลเหล่านั้น เสี่ยงถูกแทรกแซง ขุดคุ้ย และยึดโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลของประเทศ
เขาบอกด้วยว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้ความมั่นใจว่า ระบบ AI ที่พัฒนาโดยอเมริกาปลอดจากอคติด้านอุดมการณ์ และสหรัฐฯ จะไม่จำกัดสิทธิของพลเมืองในการแสดงความคิดเห็น
การประชุมสุดยอด AI ที่จัดขึ้นนาน 2 วันตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ มีผู้นำและตัวแทนรัฐบาล ตลอดจนผู้นำทางธุรกิจในอุตสาหกรรเทคโนโลยีจากเกือบ 100 ประเทศ รวมถึง จีน และอินเดียเข้าร่วม เพื่อหารือแนวทางการแสวงประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากนวัตกรรม AI และป้องกันความเสี่ยงจากเทคโนโลยี
แต่ทั้งสหรัฐฯ และอังกฤษ ไม่ร่วมลงนามในแถลงการณ์ปิดการประชุม ที่มีชื่อว่า “แถลงการณ์ว่าด้วยปัญญาประดิษฐ์ที่ครอบคลุมและยั่งยืน” แถลงการณ์ ซึ่งได้รับการลงนามจาก 60 ประเทศ มุ่งให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลให้ AI มีความเปิดกว้าง, ครอบคลุม, โปร่งใส, มีจริยธรรม, ปลอดภัย, มั่นคง และไว้ใจได้ คำนึงถึงกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศ และทำให้ AI มีความยั่งยืนสำหรับประชาชนและโลก
ขณะที่จีนสร้างความประหลาดใจในเวทีนี้ โดยลงนามในแถลงการณ์ ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างสหรัฐฯ กับจีนและยุโรปในศึกแย่งชิงความเป็นมหาอำนาจด้าน AI
จาง กั๋วชิง รองนายกรัฐมนตรีของจีน กล่าวในการประชุมเมื่อวันจันทร์ว่า จีนพร้อมทำงานกับประเทศอื่น ๆ เพื่อรักษาความมั่นคงและแบ่งปันความสำเร็จด้าน AI เพื่อสร้างประชาคม ที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมนุษยชาติ
ขณะที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูแอล มาครงของฝรั่งเศส กล่าวในวันเดียวกันว่า ยุโรปเป็นทางเลือกที่ 3 ที่ออกข้อบังคับควบคุม AI โดยไม่ขัดขวางนวัตกรรม หรือ พึ่งพาสหรัฐฯ หรือ จีนมากเกินไป และสนับสนุนการเข้าถึงนวัตกรรมอย่างยุติธรรมและเปิดกว้างสำหรับทั้งโลก