เกาหลีใต้เผยผลสอบเจจูแอร์ พบขนนกในเครื่องยนต์

เกาหลีใต้เปิดเผยรายงานการสอบสวนเบื้องต้นยาว 6 หน้าเมื่อวันจันทร์ (27 มกราคม)หรือราว 1 เดือนหลังเครื่องบินโดยสารของสายการบินเจจูแอร์ชนกำแพงคอนกรีตที่ปลายรันเวย์ในสนามบินมูอันเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2567 โดยรายงาน ระบุว่า ตรวจพบขนนกและคราบเลือดที่เครื่องยนต์ทั้ง 2 ตัว ซึ่งมี DNA ของเป็ดเปียหน้าเหลือง (baikal teal) ซึ่งเป็นนกเป็ดน้ำที่อพยพไปเกาหลีใต้ช่วงฤดูหนาว แต่ยังไม่อาจระบุเวลาที่นกชนเครื่องบินและจำนวนนกได้ และการสอบสวนต่อจากนี้จะมุ่งเน้นปัจจัยเรื่องนกพุ่งชน และกำแพงคอนกรีตที่เครื่องบินพุ่งชนใกล้รันเวย์

เครื่องบินโดยสารรุ่น โบอิง 737-800 ประสบเหตุลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินมูอันโดยล้อไม่กาง และลื่นไถลออกนอกรันเวย์ ก่อนพุ่งชนกำแพงคอนกรีตที่ปลายรันเวย์ ทำให้เกิดระเบิดไฟลุกท่วม มีผู้เสียชีวิต 179 รายจากทั้งหมด 181 ราย และอีก 2 ราย รอดชีวิต

รายงานผลการสอบสวน ระบุว่า กล่องดำหยุดบันทึกเมื่อเวลา 8.58.50 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 4 นาที 7 วินาทีก่อนเครื่องบินพุ่งชนกำแพงคอนกรีต ที่ติดตั้ง localizer ซึ่งเป็นอุปกรณ์ช่วยนำทางการลงจอด ในบริเวณใกล้รันเวย์ และหลังเครื่องบินชนกำแพงคอนกรีตและเนินดิน เกิดไฟลุกไหม้และระเบิด เครื่องยนต์จมอยู่ใต้กองดิน และลำตัวเครื่องบินส่วนหน้ากระจัดกระจายห่างจากเนินดิน 30-200 เมตร 

แต่รายงานยังไม่อาจระบุสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินต้องลงจอดโดยล้อไม่กาง และสาเหตุที่ทำให้กล่องดำบันทึกข้อมูลการบินและกล่องดำบันทึกเสียงในห้องนักบินหยุดบันทึกพร้อมกัน ก่อนนักบินประกาศเมย์เดย์ หรือแจ้งเหตุร้าย โดยเครื่องบินอยู่ที่ระดับความสูง 152 เมตร และบินด้วยความเร็ว 298 กม./ชม.ตอนที่กล่องดำหยุดบันทึก

ชุดสอบสวนมอบรายงานผลการสอบสวนเบื้องต้นให้กับองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ICAO และทางการสหรัฐฯ ฝรั่งเศส และประเทศไทยแล้ว โดย ICAO กำหนดให้ชุดสอบสวนต้องจัดทำรายงานเบื้องต้นภายใน 30 วันหลังเกิดเหตุ และเผยแพร่รายงานขั้นสุดท้ายต่อสาธารณชนภายใน 12 เดือน