กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐานและคมนาคมของเกาหลีใต้ แถลงในวันพุธโดยประกาศแผนปรับปรุงสนามบินทั่วประเทศเพื่อแก้ไขปัญหาความเสี่ยงที่เกี่ยวกับการลงจอดฉุกเฉิน และประกาศว่าจะให้ความสำคัญกับการปรับปรุงความปลอดภัยของสนามบิน 7 แห่ง ที่มีโครงสร้างอันตรายใกล้รันเวย์ ซึ่งรวมถึงสนามบินมูอัน ที่เกิดเหตุเที่ยวบินเจจูแอร์ไถลออกนอกรันเวย์ชนกำแพงคอนกรีตที่ตรงปลายสุดของรันเวย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 179 ราย จาก 181 รายเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2567
แม้สาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยการบิน บอกว่า จำนวนผู้เสียชีวิตอาจน้อยกว่านี้หากไม่มีกำแพงคอนกรีตอยู่ตรงปลายรันเวย์ กำแพงดังกล่าวติดตั้งระบบนำทางเพื่อช่วยการลงจอดของเครื่องบินที่เรียกว่า localizer
เจ้าหน้าที่ชุดตรวจสอบความปลอดภัยพบกำแพงลักษณะนี้ 9 จุด ในสนามบิน 7 แห่ง ซึ่งรวมถึงสนามบินมูอัน และสนามบินเชจู ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ และเจ้าหน้าที่กำลังพิจารณาว่าจะเปลี่ยนตัวกำแพงคอนกรีตด้วยโครงสร้างเหล็กที่เบาขึ้น หรือ ฝังลงไปใต้ดินแทน ส่วนสนามบินมูอันจะรื้อกำแพงคอนกรีตออกทั้งหมด และเปลี่ยนเป็นการใช้วัสดุอื่นที่สามารถแตกหักได้เมื่อเครื่องบินพุ่งชน
และผลจากการสอบสวนพบว่า คู่มือการใช้งานสนามบินมูอันที่อัปโหลดต้นปี 2567 ระบุว่า กำแพงคอนกรีตอยู่ใกล้ปลายสุดรันเวย์มากเกินไป เอกสารดังกล่าวจัดเตรียมโดยบริษัทโคเรีย แอร์พอร์ตส์ เสนอว่า ควรพิจารณาย้ายตำแหน่งกำแพงติดตั้ง localizer ระหว่างการจัดทำแผนขยายสนามบิน
รัฐบาลตั้งเป้าว่าจะผ่อนคลายข้อบังคับที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สามารถปรับปรุงแก้ไขสนามบินทั้ง 7 แห่งให้แล้วเสร็จได้ภายในครึ่งปีแรก และไม่เกินสิ้นปีนี้
นอกจากนี้กระทรวงฯ ระบุด้วยว่า สนามบิน 7 แห่ง ที่มีรันเวย์สั้นกว่าข้อเสนอแนะ 240 เมตร จะได้รับการขยายให้ยาวขึ้น และในกรณีมีที่ว่างไม่พอ กระทรวงฯ วางแผนใช้ระบบป้องกันเครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่ง EMAS เพื่อรับรองความปลอดภัย
EMAS มักเป็นวัสดุน้ำหนักเบาที่จะวางไว้ตรงปลายรันเวย์ และเมื่อเครื่องบินวิ่งเลยมาถึงจุดนี้ล้อเครื่องบินจะจมลง ซึ่งจะช่วยให้เครื่องบินชะลอความเร็วลงได้