โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศผ่านทรูธ โซเชียล เมื่อวันเสาร์ว่า เขาจะเสนอชื่อ แคช พาเทล หนึ่งในผู้ภักดีของเขา และอดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคง เป็นผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ หรือ เอฟบีไอ เพื่อฟื้นฟูความจงรักภักดี ความกล้าหาญ และความซื่อสัตย์ขององค์กร เขาระบุว่า พาเทลต้องการลดบทบาทของหน่วยงานข่าวกรองระดับสูงแห่งนี้ และตามจัดการผู้สมคบคิดในรัฐบาลและสื่อมวลชน
ทรัมป์ยังชื่นชมว่า พาเทลเป็นนักกฎหมายและนักสืบที่ชาญฉลาด และนักต่อสู้ ที่สนับสนุนหลักการ “อเมริกามาก่อน” และมีประสบการณ์การปราบปรามคอร์รัปชัน การปกป้องความยุติธรรม และปกป้องประชาชนอเมริกัน
การประกาศของทรัมป์เป็นการส่งสัญญาณว่า คริสโตเฟอร์ เรย์ ผู้อำนวยการเอฟบีไอ ที่มีวาระดำรงตำแหน่ง 10 ปี อาจต้องลาออกจากตำแหน่ง หรือถูกปลด หลังทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2567 ทั้งที่เขายังเหลือเวลาอยู่ในตำแหน่งจนถึงปี 2570
การปลดเรย์ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ เพราะทรัมป์วิจารณ์เรย์และเอฟบีไอมาตลอด หลังจากเอฟบีไอภายใต้การนำของเรย์ดำเนินการสอบสวนเขาเรื่องการขัดขวางกระบวนการยุติธรรม และบุกค้นรีสอร์ตมาร์อาลาโกของเขา เพื่อค้นหาเอกสารลับของทางการที่เก็บไว้ที่นี่หลังจากพ้นตำแหน่ง และนำไปสู่การยื่นฟ้องคดีอาญา
ในช่วงที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก พาเทล ซึ่งเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายอินเดีย เคยทำหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ในกระทรวงกลาโหม, รองผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ และผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการปราบปรามก่อการร้ายของสภาความมั่นคงแห่งชาติ เขาให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนกันยายน โดยเรียกร้องให้ยกเลิกบทบาทการรวบรวมข่าวกรองของเอฟบีไอ และปลดเจ้าหน้าที่ที่ไม่สนับสนุนนโยบายของทรัมป์ รวมทั้งบอกด้วยว่า อยากปิดสำนักงานใหญ่ของเอฟบีไอ แล้วเปิดใหม่เป็นพิพิภัณฑ์รัฐพันลึก (deep state)
ภายใต้ทฤษฎีสมคบคิดทางการเมืองของสหรัฐฯ มองว่า deep state เป็นเครือข่ายลับของเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานรัฐบาลกลางโดยเฉพาะใน เอฟบีไอ และสำนักงานข่าวกรองกลางหรือซีไอเอ ร่วมมือกับสถาบันการเงินและอุตสาหกรรม เพื่อใช้อำนาจควบคู่ หรือ ภายในรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง และทรัมป์มักใช้วาทกรรมนี้กล่าวหาหน่วยงานรัฐบาลที่มุ่งต่อต้านเขาและนโยบายในช่วงที่เขาเป็นประธานาธิบดีสมัยแรก