เยนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต ได้เตือนว่า ยุโรปกำลังตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะ "หมดกระสุน" ในการช่วยยูเครนตอบโต้รัสเซีย ที่กำลังเตรียมใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศครั้งใหม่ โดยอ้างข้อมูลข่าวกรองที่ว่ามีการระดมทั้งเครื่องบินขับไล่และเฮลิคอปเตอร์โจมตี เพื่อยึดพื้นที่ในยูเครนคืน
คำเตือนของสโตลเตนเบิร์กมีขึ้นในขณะที่คณะรัฐมนตรีกลาโหมของนาโต กำลังประชุมอยู่ที่กรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียมเป็นเวลา 2 วัน เพื่อหารือเรื่องการสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครน ขณะที่นักวิเคราะห์ตะวันตกระบุว่า การเสริมแสนยานุภาพทางอากาศบริเวณชายแดนยูเครน อาจมองได้ว่ากองกำลังรัสเซียกำลังพยายามผลักดันการรุกในภูมิภาคดอนบาส และสโตลเบิร์กได้แจ้งต่อประเทศสมาชิกว่า จะต้องเร่งส่งมอบอาวุธเพื่อเป็นหลักประกันว่ายูเครนจะสามารถโต้กลับการรุกรานของรัสเซีย ในขณะที่ยุโรปกำลังเสี่ยงต่อการ "กระสุนหมด"
สโตลเตนเบิร์ก ซึ่งเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีของนอร์เวย์บอกด้วยว่า มองไม่เห็นสัญญาณที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน จะพร้อมสำหรับสันติภาพ สิ่งที่เห็นมันตรงกันข้าม เขากำลังเตรียมก่อสงครามยิ่งขึ้นสำหรับการบุกและปฏิบัติการโจมตีครั้งใหม่ โดยเฉพาะในภูมิภาคดอนบาสที่อยู่ทางตะวันออกของยูเครน, เมืองคาร์คีฟที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ และเมืองซาปอริซเชียที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ โดยใช้อากาศยานกับรถถังและรถหุ้มเกราะหลายพันคัน ปูตินยังส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดที่ติดหัวรบนิวเคลียร์ได้ ไปป้วนเปี้ยนแถวทะเลแบริ่งที่แยกรัสเซียออกจากรัฐอลาสกาของสหรัฐฯ เพื่อแสดงแสนยานุภาพ ที่เป็นพฤติกรรมแบบเดียวกับสมัยสงครามเย็น และเป็นครั้งแรกของยุคนี้
ทางฝั่งยูเครนมีรายงานว่าได้เตรียมใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของอังกฤษ โจมตีไครเมียที่อยู่ในความยึดครองของรัสเซีย และประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ก็พยายามผลักดันให้พันธมิตรตะวันตกสนับสนุนขีปนาวุธกับเครื่องบินรบเพื่อใช้ในการโจมตี และเตือนว่าอาจจะไม่รอดถ้าไม่มีพวกเขา