อลิเซีย เคิร์นส์ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวหลังพบหารือกับประธานาธิบดี ไช่ อิง-เหวิน ในวันศุกร์ว่า การหารือมุ่งเน้นแนวทางการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และบทบาทของอังกฤษในฐานะชาติประชาธิปไตย
นอกจากนี้เธอบอกว่า ยังมีการหารือประเด็นความขัดแย้งทางทหาร และการทำงานร่วมกันเพื่อป้องกัน รวมถึงความสำคัญของวิถีทางการทูตเชิงป้องปราม ตลอดจนเรื่องความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศ
อังกฤษไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับไต้หวัน แต่ให้การสนับสนุนไต้หวัน ท่ามกลางภัยคุกคามทางทหารที่เพิ่มมากขึ้นจากจีน และในขณะที่สหรัฐฯ เป็นแหล่งจัดหาอาวุธที่สำคัญที่สุดสำหรับไต้หวัน บริษัทของอังกฤษให้การช่วยเหลือไต้หวันพัฒนากองเรือดำน้ำที่ต่อขึ้นเอง แต่เคิร์นส์ไม่ตอบคำถามโดยตรงเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว
สถานทูตจีนประจำอังกฤษ ระบุในแถลงการณ์ที่โพสต์ในทวิตเตอร์เมื่อวันพฤหัสบดีว่า การเยือนไต้หวันของสมาชิกคณะกรรมาธิการต่างประเทศอังกฤษ เป็นการละเมิดหลักการจีนเดียวอย่างชัดแจ้ง พร้อมกับขอให้อังกฤษยึดมั่นตามพันธสัญญาที่มี หยุดกระทำการใด ๆ ที่ละเมิดหลักการจีนเดียว และหยุดก้าวก่ายกิจการภายในของจีน
นอกจากนี้แถลงการณ์ ยังระบุด้วยว่า การเคลื่อนไหวของอังกฤษที่ทำลายผลประโยชน์ของจีนจะเผชิญการตอบโต้อย่างหนักจากจีน และการเยือนของคณะสมาชิกสภาของอังกฤษ ที่เดินทางถึงไต้หวันเมื่อวันอังคาร เป็นการส่งสัญญาณที่ผิดแก่คนที่ต้องการให้ไต้หวันเป็นเอกราช
การเยือนไต้หวันครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งในงานของคณะกรรมาธิการเพื่อศึกษาแนวทางการปรับทิศทางนโยบายต่างประเทศของอังกฤษต่อภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ที่อังกฤษมองว่า เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกทั้งทางเศรษฐกิจและการทูต นับตั้งแต่อังกฤษถอนตัวจากสหภาพยุโรป
ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างอังกฤษและจีนตึงเครียดมากขึ้นในช่วงหลายปีนี้ ท่ามกลางความขัดแย้งประเด็นสิทธิมนุษยชน นโยบายเศรษฐกิจ และการประท้วงใหญ่ในฮ่องกงในปี 2562
ริชี ซูแน็ก นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ กล่าวในสัปดาห์นี้ด้วยว่า ยุคทองของความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษจีนจบลงแล้ว และจีนเป็นความท้าทายอย่างเป็นระบบต่อค่านิยมและผลประโยชน์ของอังกฤษ