svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

'มวยเขมร-ขนมปังฝรั่งเศส' ขึ้นเป็นมรดกโลก

01 ธันวาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

'มวยเขมร' ศิลปะการต่อสู้ประจำชาติของกัมพูชา และ 'ขนมปังบาแกตต์' ของฝรั่งเศส ได้รับการประกาศจากยูเนสโกให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของปี 2565

'กุน ลโบกาตอร์' (Kun Lbokator) หรือ ศิลปะการต่อสู้ของกัมพูชา หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ 'มวยเขมร' ได้รับการยกย่องจากยูเนสโก ให้เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติประจำปี 2565 ซึ่งจากหลักฐานพบว่าเป็นศิลปะการต่อสู้ที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 7

 

'มวยเขมร-ขนมปังฝรั่งเศส' ขึ้นเป็นมรดกโลก

 

รัฐบาลกัมพูชายื่นเรื่องต่อยูเนสโก ให้มวยเขมรขึ้นเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ตั้งแต่ปี 2008 โดยยื่นถึง 3 ครั้ง แล้วมาติดช่วงโควิด จนกระทั่งได้รับการประกาศในปี 2565 ซึ่งในการแข่งขันซีเกมส์ครั้ง 32 ที่กรุงพนมเปญของกัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพ ในระหว่างวันที่ 5-17 พฤษภาคม 2566 มวยเขมรก็ถูกจัดให้อยู่ใน 40 ชนิดกีฬา ที่จะจัดแข่งด้วย

 

'มวยเขมร-ขนมปังฝรั่งเศส' ขึ้นเป็นมรดกโลก

นอกจาก 'กุน ลโบกาตอร์' แล้ว ยูเนสโกยังประกาศให้ประเพณีการทำขนมปังฝรั่งเศสแบบดั้งเดิมที่ชื่อว่า 'บาแกตต์' (Baguette) ให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ โดยขนมปังนี้มีลักษณะเป็นแท่งยาว เปลือกนอกจะกรอบและแข็งแต่จะนุ่มตรงกลาง ซึ่งเป็นได้ชื่อว่าเป็นขนมปังประจำชาติฝรั่งเศส ที่มีมีการผลิตมากกว่า 6 พันล้านชิ้นต่อปี ในฝรั่งเศส

 

'มวยเขมร-ขนมปังฝรั่งเศส' ขึ้นเป็นมรดกโลก

 

 

การประกาศของยูเนสโกได้สร้างความยินดีให้กับชาวฝรั่งเศสทั้งประเทศ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมการผลิตขนมปัง หลังรัฐบาลฝรั่งเศสยื่นคำขอสถานะให้ขนมปังบาแกตต์ ได้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้เมื่อปี 2564 โดยประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ร่วมยินดีและกล่าวยกย่องขนมปังบาแกตต์ ว่าเป็นความมหัศจรรย์และความสมบูรณ์แบบของการทำขนมปัง และเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่สำคัญของประเทศ

 

'มวยเขมร-ขนมปังฝรั่งเศส' ขึ้นเป็นมรดกโลก

โดมินิก อันราก ประธานสหพันธ์ร้านขนมอบแแห่งชาติ แถลงว่าการได้รับสถานะมรดกทางวัฒนธรรม ถือเป็นการยกย่องนักทำขนมปังและเชฟทำขนมอบทุกคน ที่ช่วยกันสืบสานวิธีการทำขนมปังบาแกตต์ที่สืบทอดมานานหลายร้อยปี

 

'มวยเขมร-ขนมปังฝรั่งเศส' ขึ้นเป็นมรดกโลก

 

คาดว่าขนมปังบาแกตต์ถูกคิดค้นในช่วงศตวรรษที่ 19 โดยสาเหตุที่ด้านนอกต้องมีความแข็ง เพื่อให้เป็นขนมปังที่ถือติดตัวไปได้ทุกที่ โดยในช่วงแรกเป็นอาหารยอดนิยมของผู้ใช้แรงงาน ก่อนกลายเป็นอาหารสำหรับคนทุกชนชั้นและโด่งดังจนมีขายในร้านขนมปังทั่วโลก

 

 

logoline