แอมะซอน (Amazon) บริษัทค้าปลีกออนไลน์ยักษ์ใหญ่ที่สุดของโลก มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน เตรียมปลดพนักงานราว 10,000 ตำแหน่ง โดยจะเริ่มตั้งแต่สัปดาห์นี้ ส่งผลให้ราคาหุ้นดิ่งลง 1.33% สู่ระดับ 99.44 ดอลลาร์
ด้านนิวยอร์ก ไทม์ส รายงานว่า แอมะซอนกลายเป็นบริษัทสัญชาติอเมริกันขนาดใหญ่รายล่าสุด ที่ปลดพนักงานตามหลัง Meta กับ Twitter ซึ่งในกรณีของแอมะซอน เป็นการเตรียมรับมือกับการเติบโตที่ช้าลง และภาวะถดถอยที่อาจเกิดขึ้นได้
การปลดพนักงานครั้งนี้ ยังเป็นครั้งใหญ่ที่สุดของแอมะซอน นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท และบุคลากรที่จะได้รับผลกระทบหนักที่สุดอยู่ในฝ่ายธุรกิจอุปกรณ์ คือ ระบบผู้ช่วยเสมือน (Alexa digital assistant) กับลำโพง (Echo speakers) เนื่องจากประสบภาวะขาดทุนปีละ 5,000 ล้านดอลลาร์ ตามด้วยฝ่ายค้าปลีก (retail division ) และทรัพยากรบุคคล (human resources)
การปลดพนักงานราว 10,000 คน ครั้งนี้ มีสัดส่วนต่ำกว่า 1% ของจำนวนพนักงานของแอมะซอนทั่วโลก ซึ่งข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม ปี 2564 ระบุว่า แอมะซอนมีพนักงานที่ทำงานเต็มเวลาทั่วโลกทั้งสิ้นราว 1.6 ล้านคน
นับเป็นการทยอยปลดพนักงานของเหล่ายักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมไอที ที่เคยได้ชื่อว่ารุ่งเรืองสุดขีด ตั้งแต่ Meta บริษัทแม่ของแพลตฟอร์มของ Facebook และ Instagram ที่ประกาศปลดพนักงานมากกว่า 11,000 คน, Twitter Inc ที่ตกเป็นของอิลอน มัสก์, Microsoft Corp และ Snap Inc
แอมะซอน ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ในปีนี้ การปรับตัวให้เข้ากับการเติบโตที่ชะลอตัวอย่างมากของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เนื่องจากผู้ซื้อกลับไปมีพฤติกรรมแบบเดิม ก่อนที่จะเกิดโรคระบาด ทำให้แอมะซอนต้องชะลอการเปิดคลังสินค้าและระงับการจ้างงานในกลุ่มค้าปลีก ก่อนจะขยายขอบเขตทั่วทั้งบริษัท