
บริษัท เมตา แพลตฟอร์มส์ อิงค์ (Meta) บริษัทแม่ของโซเชียลมีเดียชื่อดังอย่าง เฟซบุ๊ก (Facebook) ประกาศปลดพนักงาน จำนวน 11,000 คน หรือคิดเป็น 13% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดที่มีกว่า 87,000 คนทั่วโลก เพื่อทำการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่
มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์ อิงค์ ระบุในจดหมายถึงพนักงานว่า “วันนี้ ผมขอแจ้งข่าวความเปลี่ยนแปลงครั้งที่ยากลำบากที่สุดที่เราเคยดำเนินการมาในประวัติศาสตร์ของเมตา ผมได้ตัดสินใจลดขนาดทีมของเราลงประมาณ 13% และยอมปล่อยลูกจ้างที่มีความสามารถกว่า 11,000 คนของเราไป”
โดยพนักงานที่ถูกปลด เมตา จะมีการช่วยเหลือในด้านต่างๆ ทั้งการจ่ายชดเชยพนักงาน 4 เดือน ประกันสุขภาพเป็นระยะเวลา 6 เดือน และจัดศูนย์ช่วยเหลือด้านการจัดหางานใหม่ให้พนักงานที่ถูกปลดออกในครั้งนี้
นอกจากนี้ ซักเคอร์เบิร์ก ระบุด้วยว่า บริษัทจะดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อทำให้บริษัทมีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการลดรายจ่ายฟุ่มเฟือยและขยายระยะเวลาระงับการจ้างงานใหม่ไปจนถึงสิ้นไตรมาสที่ 1
หลังการประกาศดังกล่าว ราคาหุ้นของเมตาปรับเพิ่มขึ้นราว 4% ในช่วงก่อนเปิดตลาดหุ้นในสหรัฐ
การเลิกจ้างครั้งนี้มีขึ้นในช่วงเวลาที่ยากลำบากของ เมตา แพลตฟอร์มส์ อิงค์ ซึ่งเตือนนักลงทุนเมื่อปลายเดือน ต.ค.ว่า ผลประกอบการไตรมาสที่ 4 อาจเลวร้ายกว่าที่คาด ทำให้ราคาหุ้นเมตาร่วงหนักเกือบ 20%
บรรดานักลงทุนต่างกังวลเกี่ยวกับต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นของเมตา ซึ่งเพิ่มขึ้น 19% เทียบกับไตรมาสที่ 3 ของปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 22,100 ล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ ยอดขายรวมของบริษัทยังลดลง 4% เทียบกับปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 27,710 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 3 ขณะที่รายได้จากการดำเนินงานร่วงหนัก 46% จากปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 5,660 ล้านดอลลาร์
ก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์ วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ได้แจ้งกับผู้บริหารหลายร้อยคนเมื่อวันอังคาร (8 พ.ย.) ว่า บริษัทจะเริ่มทำการปลดพนักงานในเช้าวันพุธ (9 พ.ย.) ตามเวลาสหรัฐ
แหล่งข่าวเผยว่า นายซักเคอร์เบิร์กดูเศร้าซึมในการประชุมเมื่อวันอังคารและกล่าวว่า เขาเป็น “ผู้ต้องรับผิดชอบต่อความผิดพลาดของบริษัท” และการมองโลกในแง่ดีเกินไปของเขาเกี่ยวกับการเติบโตนั้น ทำให้บริษัทมีจำนวนพนักงานมากเกินไป
รายงานระบุด้วยว่า นายซักเคอร์เบิร์กแจ้งว่า บริษัทจำเป็นต้องปรับลดพนักงานจำนวนมาก และได้ระบุอย่างเฉพาะเจาะจงว่า ทีมงานที่จัดหาพนักงานและธุรกิจจะรวมอยู่ในกลุ่มพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง
ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ