"พายุนัลแก" ถล่มฟิลิปปินส์ ดับ 98 สูญหายกว่า 60 ราย

รัฐบาลฟิลิปปินส์เผยยอดผู้เสียชีวิตจากพายุโซนร้อนนัลแก (Nalgae) ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในหลายพื้นที่ของประเทศ อยู่ที่อย่างน้อย 98 รายแล้ว

สภาการจัดการและการลดความเสี่ยงภัยพิบัติแห่งชาติฟิลิปปินส์ กล่าวว่าขณะนี้มีการระบุตัวตนผู้เสียชีวิต 58 ราย และอยู่ระหว่างการยืนยันอีก 40 ราย รวมถึงมีการระบุตัวตนผู้สูญหาย 25 ราย จากทั้งหมด 63 ราย และอยู่ระหว่างการยืนยันอีก 38 ราย

ผู้เสียชีวิต 53 รายอยู่ในเขตปกครองตนเองบังซาโมโรในมินดาเนามุสลิม (BARMM) ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ ส่วนที่เหลืออยู่ในภูมิภาค 9 แห่งบนเกาะลูซอน พื้นที่ตอนกลางของฟิลิปปินส์ และพื้นที่อื่นๆ บนเกาะมินดาเนานอกเขตปกครองตนเองฯ

พายุโซนร้อนนัลแกส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 1.8 ล้านคน สร้างความเสียหายแก่ถนน 364 สาย สะพาน 82 แห่ง และทำให้ไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ โดยเมื่อวันอาทิตย์ (30 ต.ค.) ผู้คนในหลายเมืองที่ประสบอุทกภัยได้เริ่มงานทำความสะอาดต่างๆ เช่น ตักโคลน กำจัดสิ่งสกปรก ตลอดจนตัดต้นไม้และกิ่งก้านที่ถูกกระแสลมพัดหักโค่น นอกจากนั้นมีรายงานบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างจำนวนมากจมอยู่ใต้น้ำด้วย

ทั้งนี้ นัลแกเป็นพายุหมุนเขตร้อนลูกที่ 16 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในปีนี้ โดยพัดเข้าจังหวัดคาตันดัวเนส ซึ่งเป็นเกาะในภูมิภาคบิโคล เมื่อช่วงก่อนรุ่งเช้าวันเสาร์ (29 ต.ค.) ที่ผ่านมา

ฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในประเทศที่เสี่ยงต่อภัยพิบัติมากที่สุดในโลก เนื่องจากตั้งอยู่บริเวณแนววงแหวนแห่งไฟและแนวเข็มขัดไต้ฝุ่นของมหาสมุทรแปซิฟิก โดยประเทศหมู่เกาะแห่งนี้เผชิญพายุไต้ฝุ่นเฉลี่ย 20 ลูกต่อปี ซึ่งบางลูกเป็นพายุรุนแรงและสร้างความเสียหายหนักหน่วง

เมื่อเดือนเมษายน พายุโซนร้อนเมกีได้พัดพาฝนตกหนักในพื้นที่ตอนกลางและตอนใต้ของฟิลิปปินส์ ซึ่งทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่และเหตุดินถล่ม และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 220 ราย