อียูเพิ่มคว่ำบาตรอิหร่านกรณีส่งโดรนให้รัสเซีย

สาธารณรัฐเช็ก ซึ่งเป็นประธานสหภาพยุโรป หรือ อียู แจ้งวันนี้ว่า สมาชิกอียูลงมติเห็นชอบเรื่องมาตรการคว่ำบาตรระลอกใหม่ต่ออิหร่าน สืบเนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับโดรนที่ผลิตในอิหร่านและจัดหาให้รัสเซีย และถูกใช้ในการโจมตียูเครน  โดยชาติสมาชิกอียูอายัดทรัพย์สินของนายพลอิหร่าน 3 คน และบริษัทอาวุธ 1 แห่งที่มีส่วนรับผิดชอบจัดส่งโดรนให้รัสเซีย และเตรียมขยายมาตรการคว่ำบาตรต่อองค์กรอีก 4 แห่งในอิหร่าน ที่ถูกขึ้นบัญชีในการคว่ำบาตรก่อนหน้านี้

โฆษกของโจเซป บอร์เรล หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศอียู ระบุว่า มีหลักฐานว่า โดรนที่รัสเซียใช้โจมตีในยูเครนผลิตในอิหร่าน ทำให้อียูจำเป็นต้องมีมาตรการตอบโต้อย่างชัดเจน รวดเร็ว และหนักแน่น

ยูเครน กล่าวหาว่า กองทัพรัสเซียใช้โดรนกามิกาเซ่ รุ่น ชาเฮด-136 ของอิหร่าน ในเมืองต่าง ๆ ของอิหร่านมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยโดรนรุ่นนี้จะพุ่งใส่เป้าหมายเพื่อให้เกิดการระเบิดเสียหาย และดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน จะยื่นข้อเสนอให้ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ระงับความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่านอย่างเป็นทางการ

แต่กระทรวงต่างประเทศรัสเซีย กล่าวหาว่า ชาติตะวันตกพยายามสร้างแรงกดดันต่ออิหร่าน และข้อกล่าวหาเรื่องอิหร่านจัดหาโดรนให้รัสเซียเป็นเพียงข่าวลือ

เมื่อไม่กี่วันก่อน อิหร่านยืนยันว่า ไม่ได้เช้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดในสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน และไม่ได้ส่งออกอาวุธให้ฝ่ายใด และรัสเซียยืนกรานว่า กองทัพใช้แต่อาวุธของรัสเซียเท่านั้น

ขณะที่อิสราเอลเสนอเมื่อวันพุธว่า จะให้ความช่วยเหลือยูเครนพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยทางอากาศ หลังจากรัฐบาลยูเครนร้องขอให้ช่วยจัดหาระบบที่สามารถทำลายโดรนที่ผลิตในอิหร่าน แต่เบนนี แกนตซ์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ยืนยันว่า จะไม่จัดส่งอาวุธให้ยูเครน

ส่วนสถานการณ์ในยูเครนอาจมีการตัดไฟ ที่จะทำให้ไฟดับราว 4 ชม. ทั่วประเทศครั้งแรกในวันที่ 20 ต.ค. และขอให้ประชาชนลดการใช้ไฟฟ้าระหว่าง 7.00 น.-23.00 น. ของตามเวลาท้องถิ่นเพื่อให้บริษัทพลังงานสามารถซ่อมแซมโรงไฟฟ้าที่ได้รับความเสียหายจากการโจมตีของยูเครน