องค์กรสื่ออิสระด้านสิทธิมนุษยชนของรัสเซีย "OVD-Info" ที่จับตาการประท้วงต่อต้านการทำสงครามในยูเครน ได้นับจำนวนผู้ที่ถูกจับในระหว่างการชุมนุมประท้วงใน 38 เมืองทั่วประเทศ ได้อย่างน้อย 1,332 คน หลังประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แถลงทางโทรทัศน์เมื่อวันพุธว่า เขาได้ลงนามในประกาศระดมพลบางส่วน ซึ่งหมายถึงเฉพาะพลเมืองที่ปัจจุบันเป็นกำลังพลสำรองและทหารที่ประจำการในกองทัพอยู่แล้ว และมีความเชี่ยวชาญพิเศษเฉพาะด้านและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องจำนวน 3 แสนนาย นำไปสู่การประท้วงครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่มีการประท้วงต่อต้านการบุกยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
ถ้อยแถลงของปูตินถือเป็นการเรียกระดมพลครั้งแรกของรัสเซีย นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 รวมถึงสนับสนุนแผนผนวกดินแดนคร่อมยูเครน (annex swathes of Ukraine), เตือนตะวันตกว่า เขาไม่ได้แค่ขู่ตอนที่บอกว่าพร้อมจะใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อปกป้องรัสเซีย
ผู้ประท้วงได้ตะโกนถ้อยคำต่อต้านสงคราม บางคนเรียกร้องให้ปูตินไปอยู่ในสนามเพลาะที่ยูเครนด้วยตัวเอง อีกหลายคนบอกว่า "จะไม่ยอมไปตายเพื่อเขา" คลิปวิดีโอที่โพสต์ในโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นกลุ่มคนที่ชุมนุมประท้วงในเมืองโนโวซิบีร์สค์ ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในไซบีเรีย และมีผู้ประท้วงคนหนึ่งตะโกนใส่ตำรวจและเจ้าหน้าที่จากสำนักงานความมั่นคงแห่งสหพันธ์ (FSB) ว่า "เขาไม่ยอมไปตายให้ปูติน" ก่อนถูกตำรวจรวบตัวไป และนับตั้งแต่เริ่มการประท้วงมีคนถูกจับในเมืองหลวงอย่างมอสโคว์มากกว่า 300 คน และอดีตเมืองหลวงอย่างเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเกือบ 300 คน