ผู้จัดชื่อดัง “ไก่ วรายุฑ” ได้บอกเล่าเรื่องราวผ่านรายการ คุยแซ่บ show ถึงประเด็นที่โพสต์ผ่านอินสตาแกรมว่า 3 ปีไม่มีงาน
"จริง ๆ มากกว่า 3 ปี เพราะ 3 ปีเรื่องสุดท้าย คือละครวาย ก่อนหน้านั้นมีโควิดโน่นนี่นั่น ก็นานโขอยู่ที่ไม่มีงาน เราก็ชิลล์ ๆ สบาย ๆ บางทีเบื่อก็อยากบอกคนบ้างว่า เฮ้ย กูเบื่อแล้วนะ กูไม่มีงาน เสียใจก็เสียใจ แต่ก็เซฟตัวเอง มันไม่มีเงินเข้า หลายปีมีแต่เงินออก รู้สึกว่าต้องเป็นแบบนี้ไปอีกนานมั้ย ชีวิตฉันต้องใช้เงินเก็บที่เก็บทั้งชีวิตอีกนานหรือเปล่า แต่ลูกน้องเรามีอยู่เยอะ ต้องเลี้ยงเขาดูเขา ถ้าจะให้เด็กออก เคยปรึกษาเลขาฯ ถ้าพี่จะหยุดรายการ ไม่ทำแล้วนะอลหม่าน ไม่ทำแล้วนะบางกอกกระซิบ พี่ก็อยู่ได้แล้ว เจี๊ยบบอกพี่ไก่เขามีลูก มีผัว มีพ่อแม่ต้องเลี้ยง ถ้าหยุดหนึ่งคน ครอบครัวอีก 5-6 คน หลายสิบเลยนะ ไม่ใช่แค่ตรงนั้น งั้นเราก็ทำก็ทำว่ะ เราต้องแบกบริวารเราด้วย อยากลดเขานะ เห็นบริษัทโน่นนี่ลดเราก็อยากลดบ้าง แต่พอหันไปซ้ายอีนี่ก็อยู่มาสิบกว่าปี อีนี่ก็อยู่กันมาสิบกว่าปีก็ทำอะไรไม่ได้"
"ช่วงสุดท้ายจริง ๆ ไม่ไหวจริง ๆ เมื่อสองปีที่แล้ว ขอพูดหน่อย ขออนุญาตนะ บางคนพี่ไม่ไหวแล้ว แต่ก็ชดใช้ตามกฎหมายแรงงานทุกอย่าง เราให้เขา 10 กว่าคน ถามว่าเหนื่อยมั้ยเหนื่อย หนักมั้ยหนัก เยอะมั้ยก็เยอะอยู่ แต่ก็ต้องให้ไม่งั้นก็อีกหลายปี เราก็เก็บไว้ในส่วนที่ไปไม่รอดจริง ๆ สงสารจริง ๆ ตอนนี้จ้างให้อยู่เฉย ๆ ก็หลายคน ตอนงานละครไม่มี เขาก็ไปกวาดบ้าน เช็ดบ้าน"
เงินเดือนที่ต้องจ่ายแต่ละเดือน ตกค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ?
"ตอนนั้นหลายล้านอยู่ 30 กว่าคน อาศัยตัวเองทำงานตั้งแต่เด็ก เรายังไม่เจ็บก็ยังสามารถช่วยเหลือจุนเจือคนอื่นได้ แต่ใกล้เจ็บเมื่อไหร่ก็ต้องมีระยะผ่อนว่าเอาไว้แค่นี้ที่เราจะดูแลเขาได้อีกหลายปี ตอนนี้ก็คำนวณนะว่าเงินเราเหลือแค่นี้ เด็กที่ไว้แค่นี้ งานมีแค่นี้ เราจะดูแลเขาได้อีกกี่ปี"
ตอนนี้มีรายการอลหม่านจานเด็ด และบางกอกกระซิบ บางทีทำแต่ก็เข้าเนื้อ ?
"เข้าเนื้อค่ะ ตอนนี้มีสตูดิโออยู่ในบ้าน โชคดีตอนนั้นมีสตางค์ คิดทำสตูดิโอขึ้นมาในบ้านเพื่อถ่ายรายการ แต่ถ้าไม่คิดอย่างนี้ไว้ก่อน เราสวัสดีแน่ หนึ่งเช่าสตูดิโอเท่าไหร่ ค่าเก็บฉาก สร้างฉาก ค่าโฟโน่นนี่ แต่ตอนนี้เรามีของเราเอง เราไม่มีเงินเข้ามา ไม่มีเงินเข้ามาให้เรา เราก็เอาของที่มีเอาออกไปจุนเจือตรงนั้น สองรายการถามว่าอยู่ได้มั้ย เกือบอยู่ได้และเกือบอยู่ไม่ได้ในบางเดือน ต้องเอาเดือนนี้มาปะเดือนนี้ เพราะโฆษณามันไปที่อื่นกันหมด มันแชร์ไปเยอะ คนทำทีวีและเป็นเจ้าของรายการเอง ขอบอกเลยนะคะว่าน้ำตาตกใน ต้องทำ ต้องเลี้ยงตัวเองและเลี้ยงคนอื่น ถึงไม่ได้เงินก็หน้าดิฉัน เสียหน้าไม่ได้"
ถือเป็นวิกฤตที่หนักสุดในชีวิต ?
"หนักค่ะ ตอนนี้สงสารตัวเองด้วยและสงสารนักแสดง ไม่ว่าใหม่หรือเก่า อย่างน้อยละครทุกช่องก็ผลิตน้อยลง ใช้ดาราน้อยลง ใช้ทีมงานน้อยลง ช่างผมช่างหน้าช่างเสื้อผ้าไฟกล้องอะไรก็น้อยลง ฉะนั้นเป็นวิกฤต ทุกคนต้องอยู่ให้รอดให้ได้ เดี๋ยวนี้วิวัฒนาการมันสมัยใหม่ขึ้น แพลตฟอร์มมันเยอะขึ้น คนคิดอะไรที่มันต่างจากทีวีได้ มันสามารถออกอะไรก็ได้ เล่นอะไรก็ได้ที่อยากเสนอ คนก็ไปดูทางนั้น ทีวีมีขอบเขตจำกัดในการออกอากาศ มีเซ็นเซอร์มีโน่นนี่นั่น ความสนุกมันก็ลดน้อยลง กับการที่เราไปเปิดที่อื่น ตบกันเลย ด่ากันเลย กระชากหัวได้ทันที มันสนุกกว่า แต่ในทีวีมันลดลงนิดนึงแค่นั้นเอง"
สิ่งที่กลัวที่สุดไม่ใช่เงินทอง แต่กลัวตัวเองจะไม่มีคุณค่าในตัวเอง ?
"ใช่ รู้สึกว่าวันนึงเดินไปไหนแล้ว คนไม่ทักไม่เรียกไม่รู้จัก ไม่พูดถึงละครหรือรายการเรา อยู่ได้มั้ยล่ะ รู้สึกอายตัวเองว่า เฮ้ย หายไปแล้วเหรอ ไม่มีตัวตนเหรอ ทำไมเราด้อยค่าแบบนี้ คนจำงานเราไม่ได้แล้วเหรอ ไม่ได้ ฉันต้องดิ้นรน ถึงตอนนี้ไม่มีงานก็ต้องดิ้นรน ต้องขอบคุณแฟน ๆ ละคร แฟน ๆ รายการ แฟน ๆ ไก่ที่ให้กำลังใจมาตลอด ตอนโพสต์ไปไม่ว่าจะนักแสดง หรือแฟน ๆ หรือใครก็ตาม เดินไปก็บอกคุณไก่อย่าเสียใจนะ ฉันให้กำลังใจนะ ทำให้เรารู้สึกว่า เฮ้ย คนยังจำฉันได้อยู่ สิ่งนี้แหละที่ทำให้เราต้องทำอะไรขึ้นมาอีก ไม่ว่าอะไรก็ตามต้องหาโอกาสจากตรงนั้นให้ได้ ตอนนี้กำลังหาโอกาสให้คนรู้ว่าฉันยังอยู่นะ"
แพลนจะขายสตูดิโอที่ชื่อว่า วราวิลล์ ?
"ใช่ค่ะ เพราะที่ทำเอาไว้ตอนนั้นทำเป็นสตูดิโอถ่ายละคร แล้วสร้างเป็นบ้านเป็นอะไรไว้ให้ เพราะเรามีน้องชาย เราคิดว่ายังไงเราต้องตายก่อนมัน มันก็ต้องดูแลไป แต่เขามาไปก่อนเรา เราก็ถามลูกเขาว่า เอามั้ยลูก ดูแลต่อ เขาบอกไม่เอา ก็ทำยังไงล่ะ ก็ต้องจำหน่ายขายออกไป ทั้งที่รักนะ เราทำด้วยความรัก มันสวย ใครจะซื้อเรายกให้หมดเลย ไม่เก็บ วิวสวยมาก มองไปก็โปร่งโล่งหมดเลย จริง ๆ เป็นร้านอาหาร เปิดเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ เปิดตั้งแต่สิบโมงเช้าถึงสองทุ่ม เป็นเชฟเทเบิ้ล ทำอาหารเอง หน้าร้อนจะทำข่าวแช่ตำราคุณแม่ กำลังเตรียมตัว ลองโน่นนี่นั่นดู ถ้าได้เงินมา ลูกน้องเรายังอยู่ ไฟเรายังมี เราก็ต้องหาทำอะไรที่สนุก ๆ เพื่อตัวเราเองและเพื่อตัวลูกน้องเราด้วย คิดว่าจะทำซีรีส์วาย ไม่ต้องมีใครจ้าง เราไปซื้อเวลาเขาออกโฆษณาช่องไหนก็ได้ ก็อยากทำ ยังมีความรู้สึกว่ายังมีอะไรในชีวิตที่คนไม่เห็น ยังมีอีกเยอะต้องทำให้เขาเห็น ส่วนราคาต่อรองกันได้ ติดต่อมาได้เลย ช่วงเชฟเทเบิ้ล จะเป็นอาหารในเรื่องปริศนากับสี่แผ่นดิน มีละครปริศนา สี่แผ่นดินให้ดู แล้วเสิร์ฟอาหารในยุคนั้น แม่พลอยเข้าในวังทำอะไรให้ที่บ้านกินบ้าง มีสตอรี่นิดนึง มีดนตรีสดด้วย"