ครบรอบการจากไป 53 ปี ของพระเอกตลอดกาล "มิตร ชัยบัญชา" ในวันที่ 8 ตุลาคม 2566 ซึ่งปีนี้มีแฟนๆหลากหลายกลุ่มต่างจัดพิธีทำบุญในหลากหลายสถานที่ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้พระเอกชื่อดังเพื่อเป็นการรำลึกในวันครบ 53 ปี "มิตร ชัยบัญชา"
ย้อนไปไปในวันที่ 8 ตุลาคม 2513 วงการบันเทิงไทยได้สูญเสีย พ.อ.ท. พิเชษฐ์ พุ่มเหม หรือที่รู้จักกันในนาม ‘มิตร ชัยบัญชา’ พระเอกตลอดกาล ที่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุตกจากการโหนเฮลิคอปเตอร์ ขณะถ่ายทำฉากสุดท้ายในภาพยนตร์เรื่อง ‘อินทรีทอง’ ที่หาดดงตาล อ่าวพัทยาใต้ จังหวัดชลบุรี ขณะอายุเพียง 36 ปี อดีตพระเอกหมายเลข ๑ ดาราทองพระราชทานคนแรกของประเทศไทย ขวัญใจแฟน ๆ หนังไทย “มิตร ชัยบัญชา”
“มิตร ชัยบัญชา” เ กิดเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2477 ชื่อจริง พันจ่าอากาศโท พิเชษฐ์ พุ่มเหม เป็นชาวจังหวัดเพชรบุรี เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงปลายปี 2499 เป็นพระเอกภาพยนตร์ไทยในช่วง พ.ศ. 2500-2513 มีผลงานเด่นในช่วง พ.ศ. 2501-2517 ที่เป็นยุคเฟื่องฟูของภาพยนตร์ 16 มม. มีผลงานขณะนั้นนับได้ 300 กว่าเรื่อง
ในช่วงอายุ อายุ 32ปี -2509 ถือได้ว่าเป็นปีที่อาชีพนักแสดงของ มิตร ชัยบัญชา เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าต่อไปไม่หยุด โดยเทียบดูจากจำนวนภาพยนตร์ไทยที่เข้าฉายตลอดทั้งปี จำนวน ๗๑ เรื่อง เป็นภาพยนตร์ไทยที่นำแสดงโดย มิตร ชัยบัญชา เข้าฉายมากถึง ๓๘ เรื่อง แสดงนำคู่กับนางเอกคู่ขวัญ เพชรา เชาวราษฎร์ มากถึง ๓๐ เรื่อง เป็นปรากฏการณ์ที่เกินคำบรรยาย เกินจะคาดคิดได้ ถือว่าสถิติของดาราคู่ขวัญ มิตรคู่เพชรา แม้ในปัจจุบันก็ยังไม่มีพระเอก-นางเอกคู่ใดจะสามารถทำลายสถิติลงได้
สำหรับภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดเรื่องแรกคือเรื่อง ใจเพชร เมื่อพ.ศ.๒๕๐๖ต่อมามีภาพยนตร์ที่สร้างรายได้เกินล้านอีกหลายเรื่อง จนทำให้มิตร ชัยบัญชา ได้เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานรางวัล “โล่เกียรตินิยม” นักแสดงนำชาย ที่ทำรายได้สูงสุด จากภาพยนตร์ เรื่อง เงิน เงิน เงิน ซึ่งทำรายได้สูงเป็นประวัติการณ์ของหนังไทยเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๘ ต่อมาภาพยนตร์เรื่อง เพชรตัดเพชร ทำรายได้ทำลายสถิติเงิน เงิน เงิน ได้ ๓ ล้านบาท
และอีกหนึ่งช่วงสำคัญของชีวิตพระเอกคนดังในค่ำคืนของวันที่ 24 มีนาคม 2510พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จพระราชดำเนินมาพระราชทานรางวัล “ดาราทอง” ของสมาคมผู้สื่อข่าวบันเทิงแห่งประเทศไทย ณ เวทีลีลาศ สวนอัมพร โดยผู้เข้าเฝ้ารับพระราชทานรางวัลในสาขานักแสดงภาพยนตร์ฝ่ายชาย ผู้ชนะเลิศได้คะแนนโหวตสูงสุดได้แก่ มิตร ชัยบัญชา
มิตร ชัยบัญชา ได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนไว้ว่า
“ภูมิใจมากครับ เป็นรางวัลแรกในชีวิต ทุกวันนี้ธุรกิจภาพยนตร์ได้กลายเป็นชีวิตของผม และท้ายที่สุดอาจเป็นเรือนตายอีกด้วย ในวันหน้าหากผมจะตกลงมา หวังว่าจะมีเบาะนุ่ม ๆ มารองรับผมไว้ทัน รางวัลพระราชทานที่ได้รับนี้ ผมจะวางบูชาไว้บนหิ้งพระครับ”
ด้วยความศรัทธาในอาชีพ มุ่งมั่นในหน้าที่และความรับผิดชอบ เกิดเป็นความภาคภูมิใจอย่างที่สุด จนทำให้ มิตร ชัยบัญชา ตัดสินใจเปลี่ยนนามสกุล โดยนำนามสกุล “ชัยบัญชา” มาใช้เป็นนามสกุลจริงของตนเอง ได้ไปขอจดทะเบียนนามสกุลใหม่ของตนเองขึ้นมาว่า ชื่อ พิเชษฐ์ นามสกุล ชัยบัญชา
ในวงการภาพยนตร์ไทยของ มิตร ชัยบัญชา วันเวลาของเขากำลังจะหมดลง ทิ้งไว้แต่ผลงานหนังกิโลของเขา ที่มากมายเกินกว่าคนปกติธรรมดาจะทำได้ ความขยันมุ่งมั่น พูดจริงทำจริงของเขา ทำให้การเติบโตทั้งระบบของหนังไทย ตั้งแต่จำนวนโรงหนังใหม่ ๆ ที่เพิ่มขึ้น จำนวนบริษัทผู้สร้างหนังใหม่ ๆ ก็เกิดขึ้น ดาราหน้าใหม่ ๆ ก็เกิดขึ้นมากมาย จำนวนหนังที่เข้าฉายในแต่ละปีก็เพิ่มทวีจำนวนไม่หยุด เกิดการสร้างรายได้ การขยายตัวของเศรษฐกิจขยับเขยื้อนตัวทั้งระบบ เงินทองหมุนเวียนอยู่ในประเทศ “สร้างกระแสนิยมไทยขึ้นในหมู่ประชาชน”
แต่ความรุ่งเรืองก้าวหน้าของ มิตร ชัยบัญชา มิได้หยุดอยู่แค่ในประเทศไทยเท่านั้น เนื่องจากกระแสความนิยมหนังจีนกำลังภายในจากไต้หวันและฮ่องกง กำลังแผ่กระจายไปตามไชน่าทาวน์ทั่วโลก ทำให้เกิดกลุ่มธุรกิจไทย-จีน ร่วมมือกันลงทุนสร้างหนังจีนกำลังภายใน โดยใช้ทีมงานจีนทั้งหมด มีแต่พระเอกเท่านั้นที่ขอเลือก มิตร ชัยบัญชา พระเอกคนไทยไปแสดงหนังจีนร่วมกับทีมงานจีน .....เขาคือพระเอกหนังที่สื่อมวลชนทั้งหลายยกย่องว่าเขาคือ พระเอกหมายเลข ๑ ของวงการภาพยนตร์ไทย อย่างเต็มภาคภูมิ
ที่มาเพจดาราภาพยนตร์