"อุล ภาคภูมิ" ช่วยฮีลใจ "ตุ๊กกี้ ชิงร้อย" ผ่านวิกฤตโรคอารมณ์สองขั้ว

จุดเริ่มต้นในการเป็นพิธีกรต้องผ่านอะไรมาบ้าง ?

"ผมเริ่มมาจากการประกวดเดี่ยวดวลไมค์ก่อน รายการประกวดพูดของโต๊ะกลม ตอนนั้นได้ที่ 2 เค้าก็เห็นว่าตัวนี้มันพอพูดได้ เอามาลองทำพิธีกรภาคสนาม ลองมาทำไลฟ์สดดู เอาไปตลก 6 ฉาก และได้รับโอกาสมากมายเป็นพิธีกร เป็นนักแสดงซิทคอม ได้ลองทุกโอกาสจนได้มาเจอกับคนเก่ง ๆ มากมาย"

แจ้งเกิดจากเล่นตลกกับแก๊งสามช่า คอมเมนต์วิจารณ์สนั่นมาก ?

"ผมได้ทำหลายอย่างมาก ได้โอกาสจากผู้ใหญ่ให้ไปเล่นตลก ได้เจอครูบาอาจารย์มากมาย ได้เจอพี่หม่ำ พี่เท่ง พี่โหน่ง เป็นการเล่นด้นสดตลอด ศาสตร์นี้เราไม่ค่อยได้เลย กดดันมาก เครียดทุกครั้ง เราก็หลับตาบอกตัวเองว่าเดี๋ยวมันจะผ่านไป อยากให้เสร็จเร็ว ๆ แล้วทุกสัปดาห์เราก็มาอ่านคอมเมนต์ที่เค้าว่าเราในโลกโซเชียล เราน้อมรับเลยนะที่ว่าเรา"

"ตอนนั้นเราก็ไม่ชอบงานเราเหมือนกัน เพราะคนดูเค้าก็อยากดูแก๊งสามช่า แล้วเราก็มาทำให้ทุกอย่างหมองไปเลย เสียเซลฟ์มาก ไปไหนออกจากบ้านต้องก้มหน้า เพราะเราอ่านคอมเมนต์ในยูทูบ เดินไปไหนก็คิดว่าคนนี้ด่าเราแน่ ๆ คิดเองไปหมด นานมากกว่าทุกอย่างจะกลับมาปกติ"

 

ตอนนี้ลุยงานพิธีกรเป็นดูโอ้คู่ใหม่ประกบกับ "ตุ๊กกี้ ชิงร้อย" กลายเป็นที่ปรึกษาเบอร์หนึ่งไปแล้ว ?

"ผมว่าพี่ตุ๊กกี้น่าจะสบายใจมากกว่าที่มาปรึกษา การไม่สบายของพี่ตุ๊กกี้จริง ๆ ไม่ต้องอะไรมากมาย เพียงแค่ว่าเราเป็นผู้รับฟังที่ดี เค้าก็จะมาระบายความในใจประมาณนี้ มีหลายคนนะที่พี่ตุ๊กกี้เค้าเชื่อใจ มีนิกกี้ ที่เค้าไว้เนื้อเชื่อใจที่เค้าจะปรึกษาและโทรศัพท์ไปหา แต่ว่าผมก็อาจจะบ่อยพอสมควร"

"ผมจะแนะนำหนังสือให้พี่เค้าอ่าน ผมเป็นคนชอบอ่านหนังสืออยู่แล้ว จริง ๆ จุดประสงค์ของผมในการแนะนำพี่ตุ๊กกี้เลย คือ ให้พี่ตุ๊กกี้ไปอ่านหนังสือจะได้ไม่ต้องโทรมาหาผมแหละ (หัวเราะ) ส่วนใหญ่พี่ตุ๊กกี้เค้าจะชอบอ่านหนังสือฮีลใจ ปัจจุบันจะมีหนังสือที่แบบว่าอ่านแล้วได้พลังใจเยอะ ข้อความจะไม่มากนัก อ่านง่าย พวกนี้พี่ตุ๊กกี้เค้าจะชอบมาก เพราะอ่านแล้วเข้าใจเลย หลายคนอาจจะคิดว่าหนังสือมันโลกสวย แต่สำหรับคนที่หมดพลังใจจริง ๆ มันอ่านและมีพลังฮึดขึ้นมาได้"

 

ที่มา : รายการโต๊ะหนูแหม่ม