"เอิร์ก เลเดอเรอร์" ขอสู้ความจริง พร้อมแสดงความจริงใจ ยันไม่เคยคิดโกงใคร

นอกจากนี้ยังได้บอกว่า ผู้เสียหายรายอื่นๆ กำลังอยู่ในช่วงเจรจา "เอิร์ก เลเดอเรอร์" ได้โพสต์คลิปผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมแคปชั่น

"สองเดือนที่เอิร์กหายไป ต่อจากนี้เอิร์กจะอัปเดตทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับชีวิตของเอิร์กกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เอิร์กต้องเจอ หลังถูกขู่เก็บ (ปัญหาทางธุรกิจ) โดนโกง ถูกหักหลัง และถูกใส่ร้ายจากหุ้นส่วนทางธุรกิจบางคน ในช่วงที่เอิร์กหายไปตลอดระยะเวลาสองเดือนที่ผ่านมา รวมถึงการถูกหักหลังจากคนที่เราเคยรัก แต่ในเรื่องราวร้ายๆ ที่เกิดขึ้นก็ยังมีเรื่องราวดีๆ ที่ทำให้รู้ว่าใครบ้างที่รักเราจริง พร้อมที่จะฟังเหตุผลที่เราต้องหายไปในตอนนั้น"

"ขอบคุณน้องลิลลี่ที่รับฟังเเละพร้อมที่จะอยู่ข้างพี่อีกครั้ง@lillykalilly ขอบคุณพี่โนร่าที่พร้อมจะลุยธุรกิจไปด้วยกันอีกครั้ง รวมถึงขอบคุณหุ้นส่วนหลายๆ คนที่เอิร์กได้ติดต่อไปบ้างแล้วที่พร้อมจะซัพพอร์ตเอิร์กเหมือนเดิม ส่วนบางคนที่เอิร์กยังไม่ได้ติดต่อไป รอเเป๊บนะครับ กำลังทยอยครับ"

"อาจจะมีบางคนที่อาจจะไม่ขอคุยด้วย เนื่องจากว่าสร้างความเสียหาย ปั่นให้หลายคนเกลียดเอิร์ก เเละสร้างความเข้าใจเอิร์กผิดในเรื่องที่ไม่จริง ขอโทษหลายๆ คนที่ทำให้เป็นห่วงและทำให้งงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยที่ไม่ทันได้บอกอะไรใครเลย เพราะในตอนนั้นมันขาดสติจากปัญหาทุกๆ อย่างที่มันเข้ามาพร้อมๆ กันจริงๆ เดี๋ยวจะมาอัปเดตให้ได้รู้กันครับ ขอบคุณครับ"

ล่าสุดในวันนี้ (26 ม.ค. 66) เจ้าตัวก็ขอใช้พื้นที่ส่วนตัวแจกแจงอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมเหตุผลที่ต้องหายตัวไปเกือบสองเดือน

ช่วงเวลาหนึ่งเดือนเต็มๆ ก่อนที่จะต้องหลบไปตั้งหลัก เอิร์กโดนกดดันจากหลายๆ เรื่อง ที่ยากจะรับมือ โดนโกงสินค้าชิ้นใหญ่ 3 ชิ้น มูลค่าต่อชิ้นเกิน 10 กว่าล้าน บวกกับในช่วงนั้นสุขภาพแย่มาก ไม่สบายเป็นโควิดและไอเรื้อรังเป็นเดือนไม่หาย เพราะเกิดจากการทำงานหนัก ไม่ได้พักผ่อนและเครียดสะสม ถูกหุ้นส่วนทางธุรกิจ (บางคน) กดดันในเรื่องของธุรกิจบางตัวที่มันติดและสะดุด (ปัญหาภายใน) เราบอกว่าตอนนี้ติดขัดนิดหน่อย แต่บางคนก็ไม่ยอมกดดันเราอย่างเดียว ถึงขั้นถูกขู่ในหลายๆ รูปแบบ พอทุกๆ อย่างมารวมกัน ตอนนั้นก็เลยเครียดมากๆ เลยจองตั๋วเดี๋ยวนั้นเลยกะจะหายไปสักแป๊บเพื่อรีบูทตัวเอง (เอิร์กก็มีส่วนผิดตรงที่ไปโดยไม่บอกใครเลย เพราะตอนนั้นยอมรับว่าสติแตกมาก) 

1. กดดันจนถึงขีดสุด ไม่ไหวทั้งร่างกายและจิตใจ จนทำให้ระเบิดและอยากหลบไปพักเท่านั้น ในสมองไม่เคยคิดว่าจะทิ้งหุ้นส่วนทางธุรกิจคนไหนเลย และไม่เคยคิดจะโกงใครทั้งนั้น และจะโกงไปทำไมในเมื่อเราอยู่ตรงนี้มาสิบกว่าปีแล้ว ทำธุรกิจมานาน ไม่ได้ฉาบฉวย ถ้าคิดจะโกงใครจริงๆ วันนี้จะทยอยติดต่อหาหุ้นส่วนและน้องลิลลี่ด้วยตัวเองทำไม (ถ้าบอกว่าเราโกง คนโกงมันจะติดต่อกลับไปเองเพื่ออะไร ทั้งๆ ที่ก็ไม่รู้ว่าเราอยู่ไหน ลองคิดกันดูครับ) และในเมื่อทุกอย่างก็เงียบแล้ว ถ้าคนที่ตั้งใจจะทำไม่ดี หรือคิดจะเลวจริงๆ ทำไมถึงหาทางติดต่อมาด้วยตัวเอง ทุกคนคิดได้ว่าเจตนาเอิร์กเป็นยังไง แต่ที่ติดต่อช้าเพราะหลายคนรวมกลุ่มกันและรีบไปแจ้งความ เพียงแค่วันเดียวมันไวมาก และออกหมายจับเลย ตอนนั้นยอมรับเลยว่าไม่โอเคอย่างหนัก เพราะก่อนหน้านี้บางคนก็บีบเราสุดๆ อยู่แล้ว
2. พอไปถึงที่หมาย ตื่นเช้ามาเท่านั้น แม่โทรมาบอกว่าบัญชีถูกอายัด และหุ้นส่วนบางคนก็พากันไปกองปราบทันที มีคนสนิทส่งข่าวมาในไอจีของน้องสาว พอเรารู้ก็ตกใจมาก น้อยใจ รวมถึงเสียใจที่ทำไมทุกอย่างมันรวดเร็วขนาดนั้น ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วใจเราคือบอกกับตัวเองเลย ว่าขอพักหายใจสักพักและยังไงต้องกลับ พอเจอเหตุการณ์พวกนี้ถามว่าเราจะกลับไปทันทีได้เลยเหรอ มันคือครั้งแรกในชีวิตที่อยู่ๆ ก็มีหมายจับ คือเรางง และด้วยอารมณ์ก่อนหน้านั้น มันก็เครียดอยู่แล้วกับทุกอย่างที่เล่ามาก่อนหน้านี้ทั้งหมด พอมาเจออะไรแบบนี้ บอกเลยว่าถอดใจสุดๆ เลยบอกกับตัวเองว่าขอพักรอให้ข่าวเงียบและจะทยอยติดต่อหาทุกคน เหมือนที่ทำอยู่ตอนนี้ และอีกไม่นานก็มีข่าวโกงน้องอีก คือเราไม่ได้คิดจะโกงน้องเลย แค่เราติดต่อใครไม่ได้ เพราะตอนนั้นด้วยความที่กลัวคนที่ขู่เก็บ เราก็ลบล้างข้อมูลในโทรศัพท์ทั้งหมด คือคิดอะไรไม่ออกมันชั่ววูบ เพราะกลัวการจับสัญญาณทั้งหมด ก็ต้องเงีบบที่สุดก่อน เพราะไม่รู้จะยังไงต่อในตอนนั้น
3. ถ้าเอิร์กคิดจะโกงหุ้นส่วนทางธุรกิจจริงๆ เอิร์กไม่ติดต่อกลับมาหาทุกคนในวันนี้ด้วยตัวเองหรอก ชีวิตเอิร์กไม่ต้องกลับเมืองเมืองไทยเลยก็ได้ เพราะครอบครัวอยู่เมืองนอกกันหมด ที่จะกลับเพราะน้องลิลลี่และหุ้นส่วนที่ดีกับเราทุกคน เราบริสุทธิ์ใจที่ติดต่อไป เพราะอยากจะกลับไปทำธุรกิจให้ทุกคนเหมือนเดิม จึงทยอยทักหาหุ้นส่วนทางธุรกิจทุกคนด้วยตัวเอง หลายคนบอกว่าทำไมไม่ไลน์มาบอก หรือโพสต์ไอจี เฟซบุ๊กก็ได้ ตอนนั้นต้องไปตั้งหลักที่ถูกขู่เก็บ เอิร์กลบข้อมูลทั้งหมดทิ้งออกจากเครื่องทั้งหมดเลยตามที่บอกก่อนหน้านี้ เพราะอยากป้องกันทุกการติดตามในทุกๆ ช่องทาง รวมถึงการจับสัญญาณจากแอปต่างๆ พวกนี้ด้วยครับ และมีบางคนบอกกลับมาเลยกลับมาสู้ และถามหน่อยว่าทำไมต้องสู้ ถ้าหุ้นส่วนทุกคนรักกันจริงก็ควรไปทำเรื่องเปิดทางให้เอิร์กกลับไปได้อย่างสบายไหม เอิร์กเหนื่อยเพื่อทุกคนมากี่ปี เราก็ติดต่อมาแล้วคิดกันให้ได้ เพราะเรากลับไปเหนื่อยเพื่อพวกคุณนะ กลับไปบริหารธุรกิจต่างๆ ให้มันใช่เรื่องไหม ถ้าต้องกลับไปสู้กันเอง ทั้งๆ ที่ก็บอกเหตุผลไปหมดแล้ว 
4. คือทุกอย่างมันเกิดขึ้นไวมาก ทุกอย่างคือจังหวะนรกสุดๆ และก็มีหุ้นส่วนที่เอิร์กสนิทด้วยไปปั่นแฟนคนล่าสุดอีก ทำให้ทุกอย่างมันเละเทะไปหมด แฟนคนนั้นกับคนของเค้าก็ฟังและเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ไปอีก หาว่าเราดูถูกเค้า โดยที่ไม่ถามเราสักคำว่าเราพูดกับน้องๆ ยังไง พูดจริงไหม บอกว่ารักเราแต่เชื่อคนที่ไม่รู้จัก อันนี้ผมต้องขอบคุณหุ้นส่วนที่ไปปั่นทำให้ได้รู้นิสัยลึกๆ และความหยาบของเค้าและคนของเค้า เค้าและคนของเค้าใช้คำหยาบกับเราชนิดที่ไม่คิดว่าเค้าจะพูดกันได้ เพราะตั้งแต่คบกันมาไม่เคยเห็นพูด ด่าเราเหมือนเราไปฆ่าล้างโครตเค้าตาย ทั้งๆ ที่ตอนคบกันเค้าใช้เงินเราแทบจะทุกบาททุกสตางค์ ได้อะไรจากเราไปนับไม่ถ้วน ถ้าเป็นเราเราจะไม่โกรธอะไรขนาดนั้นเลย กับเรื่องแค่มีคนมาบอกว่าเราว่าเค้า (ถ้าเราพูดถึงต้องมีแน่ แต่ถ้าด่าให้เสียหายจะทำเพื่ออะไร) ก่อนเอิร์กบินหนึ่งวัน ยังมาขอเงินเราอยู่เลยเอิร์กก็โอนไปวันนั้นเลย ถ้ายังมีสมองอยู่ลองคิดทบทวนดูนะครับ คนดีๆ เค้าต้องถามก่อนไหม 
5. และแถมหุ้นส่วนเราที่เป็นลูกน้องเรา คุณ ป. ซึ่งรับเงินเดือนเราก็ปั่นนักลงทุนด้วยข่าวมั่วๆ ทำให้เราเสียหายไปอีก ไปคุยกับคนนั้นทีคนนี้ที ทำTikTokลงกับเรื่องที่ไม่จริงออกมาอีก การศึกษาก็มีไม่รู้เหรอว่า การทำแบบนี้มันผิดกฎหมาย มันคือสารพัดไปหมด แต่เราเองก็ผิด ตรงสติแตกไปหน่อยบินไปโดยอารมณ์ชั่ววูบ ในจุดนี้ก็ต้องขอโทษทุกคนจากใจจริง ส่วนเรื่องข่าวที่โกงน้องลิลลี่กับหุ้นส่วนทางธุรกิจนั้น ไม่มีวันเกิดขึ้นแน่นอน ไม่ว่าจะตอนนี้หรืออนาคต ถึงติดต่อไป ถ้าจะโกงวันนี้จะออกมาทำไม ตอนนี้กำลังอยูในช่วงเจรจากับหุ้นส่วนใหญ่ๆ ว่าจะช่วยกันดูแนวทางว่าจะกลับไปในรูปแบบไหนเพื่อให้มันดีที่สุด ร่วมกันหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับเราและทุกคน เพราะถ้าพูดกันจริงๆ มันก็คือการเข้าใจผิด และทุกคนสามารถผิดพลาดได้ แต่เอิร์กได้เริ่มแก้ไขแล้ว ส่วนที่เหลือทุกคนก็ต้องช่วยกันด้วย 

ขอบคุณครับ   

 

ขอขอบคุณภาพจาก : aerk_lederer