นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยในปี 66 จะขยายตัวได้ 2-3% คิดเป็นมูลค่า 3 แสนล้านบาท จากปีนี้ขยายตัว 7-8% มูลค่า 2.9-2.93 แสนล้านบาท แต่ต้องดูว่าจีนผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ได้มากน้อยแค่ไหน เพราะจะมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนเรื่องการเดินทาง และการท่องเที่ยว
นอกจากนี้ สินค้าในกลุ่มอาหาร ยังมีโอกาสจะเติบโตได้ดีในปีหน้า และเป็นแรงสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนภาคการส่งออกของไทย ในขณะที่สินค้ากลุ่มอื่น ยังค่อนข้างมีความเสี่ยง
สำหรับปัจจัยที่จะมีผลต่อการส่งออกของไทย เช่น การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับสูง และการแข็งค่าของเงินบาท
นอกจากนี้ ต้องจับตาสถานการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกอยู่ในระดับสูง แม้ว่าธนาคารกลางได้ออกมาตรการทางการเงินที่เข้มงวดเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลให้เศรษฐกิจ ของตลาดหลักเริ่มมีการชะลอตัวลง ปัญหาวัตถุดิบขาดแคลน อาทิ เซมิคอนดักเตอร์ และวัตถุดิบที่มีราคายังคงมีผันผวน ข้าวสาลี ถั่วเหลือง ข้าวโพด เมล็ดทานตะวัน ปุ๋ย เป็นต้น โดยจะส่งผลต่อเนื่องไปยังปีหน้า
อย่างไรก็ดี สรท. มีข้อเสนอแนะที่ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาติดตามและสนับสนุนในการส่งออก โดยขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย รักษาเสถียรภาพค่าเงินบาทไม่ให้มีความผันผวนเร็วเกินไป
ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 34-35 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ขอให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ขอให้ภาครัฐช่วยพิจารณาควบคุมหรือปรับขึ้นค่าไฟฟ้า (FT) ทั้งในภาคการผลิตและภาคครัวเรือน แบบค่อยเป็นค่อยไป
นอกจากนี้ขอให้ภาครัฐที่เกี่ยวข้องพิจารณาสนับสนุนงบประมาณในการยกระดับการผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม สอคคล้องกับนโยบาย BCG ของรัฐบาล และเร่งดำเนินการความตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ที่สำคัญ อาทิ ไทย-อียู ไทย-ยูเค ไทย-ตุรกี ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) (อินเดีย) และความตกลงการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก (FTAAP)