เพิ่ม nation online
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
นายอาคม เติมพิทยาไพสิษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปีหน้า เชื่อว่า จะขยายตัวได้ 3.5-4% และ การส่งออก จะเติบโต 3-5% จากปีนี้ที่ส่งออกเติบโตได้ 8% ตามที่หอการค้าไทยประเมินไว้ เพราะ เศรษฐกิจไทย ฟื้นตัวต่อเนื่อง ตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2565 หลังผ่อนคลาย จากมาตรการโควิด-19 และ กลับมาเปิดประเทศ ทำให้การบริโภค และ การท่องเที่ยวฟื้นตัวได้ดีขึ้น รับได้อานิสงค์จากค่าเงินบาทอ่อน
ดังนั้นจึงเห็นว่า สำหรับโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 6 (เฟส 6) ไม่มีความจำเป็นต้องมีอีก เพราะ การบริโภคฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องแล้ว แต่ยังคงมีมาตรการส่วนอื่นๆ ที่จะเป็นของขวัญปีใหม่ 2566 ให้แก่ประชาชน ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อเสนอ จากหน่วยงานที่เกี่ยว โดยจากกำลังซื้อที่ฟื้นตัว มาตรการเดิมที่เคยมีอาจจะลดลงได้ และ หนึ่งในมาตรการพิเศษนี้ จะมีมาตรการที่เกี่ยวข้อง กับการ ลดหย่อนภาษี ในปีหน้าด้วย
ทั้งนี้ ในส่วนภาครัฐ จะเร่งเดินหน้าลงทุน โครงสร้างพื้นฐาน เพื่อพัฒนาระบบโลจิสติกส์ ลดต้นทุนการขนส่ง ให้ภาคเอกชน โดยประเมินว่าประเทศไทย จำเป็นต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ในช่วง 8 ถึง 10 ปี เป็นมูลค่า 5 ล้านล้านบาท อาทิ ด้านสาธารณูปโภค และ พลังงาน เป็นต้น ซึ่งจะระดมทุน จากการออกพันธบัตรเงินกู้ และ งบประมาณภาครัฐ
ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น เข้าใจดีหากรัฐบาล จะไม่มีโครงการคนละครึ่งอีก ในช่วงปลายปี เพราะงบประมาณมีจำกัด ซึ่งงบประมาณต่างๆก็มาจากภาษีประชาชน โดยเชื่อว่าในช่วงการเลือกตั้ง ที่จะต้องเปลี่ยนผ่านรัฐบาล คงไม่เกิดสูญญากาศ ด้านนโยบาย เพราะ เรื่องปากท้อง ควรเป็นเรื่องแรก ที่ให้ความสำคัญ ซึ่งเศรษฐกิจของประเทศเวลา นี้เชื่อว่ากำลังจะดีขึ้นแล้ว และ จะขยายตัวได้ถึง 3.5-4% ในปีหน้า