เนื้อโพนยางคำยอดขายพุ่ง! หลังขึ้นโต๊ะผู้นำเอเปค

ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงกาลาร์ดินเนอร์ สำหรับผู้นำ และคู่สมรส (APEC2022Thailand)ที่จะมีขึ้นคืนวันที่ 18 พ.ย.2565 ที่หอประชุมกองทัพเรือ โดยมี เชฟชุมพล แจ้งไพร เป็นผู้คิดรังสรรค์เมนูขึ้นโต๊ะ ภายใต้แนวความคิด“Sustainable Thai Gastronomy Gala Dinner”สอดคล้องกับแนวคิดหลักของการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทย และหนึ่งในนั้นคือการคัดสรรวัตถุดิบจากแหล่งผลิตท้องถิ่นทั่วประเทศไทย รวมทั้งที่ได้ขึ้นทะเบียน“สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์”หรือ (Geographical Indication: GI)เพื่อนำเสนอ ความอุดมสมบูรณ์ของไทยที่เป็นครัวของโลก

14พ.ย.65ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ร้านจำหน่ายเนื้อโคขุนโพนยางคำ ภายในสหกรณ์การเลี้ยงปศุสัตว์ กรป.กลางโพนยางคำ จำกัดบ.โพนยางคำ ต.โนนหอม อ.เมือง จ.สกลนคร พบว่า มีลูกค้ามาอุดหนุนซื้อเนื้อโพนยางคำไปปรุงอาหาร แต่ลูกค้าหลายคนบอกว่า ส่วนใหญ่ซื้อนำไปเป็นของฝากหลังจากเนื้อโคขุนโพนยางคำ ได้รับเลือกนำไปปรุงเป็นเมนูพิเศษบนโต๊ะงานเลี้ยงกาลาร์ดินเนอร์ทำให้หลายคนอยากลิ้มลองรสชาติ นำไปปรุงอาหารชิมบ้าง

สอบถาม นางสมร ภูผาศรี เลขาสหกรณ์การเลี้ยงปศุสัตว์ กรป.กลางโพนยางคำกล่าวว่า ช่วงนี้ยอดจำหน่ายของเนื้อโพนยางคำ ขายดีเป็นลำดับตั้งแต่หลังโควิด-19ที่เริ่มมีการจำหน่ายเนื้อได้ ปีนี้ยอดขายรวม อยู่ประมาณ75ล้านบาท และเมื่อได้รับเลือกเป็นเมนูให้กับผู้นำเอเปค คาดว่าจะกระตุ้นยอดขายเพิ่มขึ้นได้ ในช่วงฤดูท่องเที่ยว สำหรับเนื้อชิ้นส่วนไหนที่ทางเชฟได้คัดเลือกไปเป็นพิเศษ นางสมร กล่าวว่า ไม่ได้ระบุมา แต่หากจะใช้ส่วนไหน ทางสหกรณ์ฯ ก็มีของเพียงพอสามารถจัดส่งได้ เบื้องต้นได้เตรียมซากโคขุน ที่คัดสรรขนาดไว้แล้ว จำนวน4ซาก น้ำหนักซากละ200กิโลกรัม ที่ผ่านกระบวนการเก็บบ่ม (Aging)ในอุณหภูมิ 0-4 อาศาเซลเซียส เป็นเวลา 7 วันแล้ว

“สำหรับเนื้อยอดฮิตที่ลูกค้าคนในพื้นที่ นิยมซื้อไป คือ เนื้อใบพาย จะมีความเหนียวนุ่ม จะรู้สึกถึงความเป็นเนื้อ แต่เนื้อที่นำปรุงเป็นสเต็ก ต้องเนื้อสันนอก ที่ถอดกระดูกออกจากเนื้อทีโบน มีเพียง2กก.ต่อ ซากโคขุน1ซาก เนื้อจะมีไขมันแทรกในระดับพรีเมี่ยม จะทำให้เนื้อนุ่ม จะเหมาะกับคนต่างประเทศมากกว่า แต่ชิ้นส่วนเนื้อโคขุนโพนยางคำ สามารถนำไปประกอบอาหารได้ทุกส่วน ตามแต่คนชอบ ซึ่งทางสหกรณ์ฯ ได้ทำแผ่นพับแนะนำชิ้นส่วน ที่จะสามารถนำไปอาหาร เพื่อง่ายต่อการตัดสินใจของลูกค้า ทั้งนี้การเลี้ยงโคขุนโพนยางคำ ให้ความสำคัญตั้งแต่การเริ่มขุน การให้วัคซีน การฉีดยาถ่ายพยาธิ การควบคุมสารอาหาร รำข้าว กากน้ำตาล ที่มีธัญพืชเป็นส่วนผสมหลัก เมื่อนำเนื้อไปย่างในเตาถ่าน หรือ ทำสเต็กในจานร้อน จะมีความหอม รสชาติจะโดดเด่นในเรื่องกลมกล่อม ซึ่งเนื้อโคขุนโพนยางคำ ได้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในเวทีการประชุมผู้นำเอเปค จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะทำให้เราพัฒนาคุณภาพของเนื้อให้เป็นรู้จักในระดับโลก และเป็นช่องทางให้เกษตรกรผู้เลี้ยง ได้พัฒนาการเลี้ยงโคขุนยกระดับสู่มาตรฐานสากล” นาง สมร กล่าว

ทั้งนี้เนื้อโคขุนโพนยางคำ ได้รับการขึ้นเป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ เป็นสินค้าที่มาจากแหล่งผลิตที่เฉพาะเจาะจง โดยคุณภาพหรือชื่อเสียงของสินค้าจะมีความเชื่อมโยงกับแหล่งภูมิศาสตร์ที่มีการผลิตสินค้านั้น ไม่ว่าจะเป็น ดิน น้ำ อากาศ และภูมิปัญญาของชุมชนในท้องถิ่น ส่งผลให้สินค้านั้นแตกต่างกับสินค้าประเภทเดียวกันที่ผลิตในแหล่งอื่น

 ซึ่งจุดเด่นนี้ และการได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าGIจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เป็นเนื้อโคขุนคุณภาพสูงที่บ่มในห้องเย็น มีไขมันแทรกในปริมาณที่เหมาะสม ทำให้มีความนุ่ม มัน หวาน หอม อร่อย โดยจะผลิตจากโคเนื้อลูกผสมระหว่างโคสายพันธุ์ยุโรปกับโคสายพันธุ์พื้นเมือง พร้อมทั้งผ่านกระบวนการเลี้ยง ในพื้นที่ราบสูงและที่ราบลุ่มลอนคลื่นที่ตั้งระหว่างเทือกเขาภูพานกับแม่น้ำโขงหรือที่เรียกว่าอีสานเหนือ หรือแอ่งสกลนคร ซึ่งมีความเหมาะสมกับการเลี้ยงและขุนโคเพื่อให้มีไขมันแทรกในกล้ามเนื้อได้ดี รวมทั้งการแปรสภาพและตัดแต่งอย่างถูกสุขลักษณะตามมาตรฐานสากล และตามข้อกำหนดของสหกรณ์ฯ โพนยางคำ ส่งผลให้ได้เนื้อที่นุ่ม อร่อย ขายได้ในราคาสูง เนื้อสันในประมาณกิโลกรัมละ 1,100-1,200 บาท