ดร.ศุภชัย แก้วศิริ ประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย (Thai SMEs Conucli :SMEs) หรือ สภาเอสเอ็มอี เผยภายหลังการร่วมหารือกับผู้แทนสมาคมการค้านักธุรกิจไทย-มุสลิม นำโดยนายมารุต เมฆลอย นายกสมาคมฯ ระบุ การพบปะหารือในวันนี้ได้ข้อสรุปในการใช้แนวทาง ”เอสเอ็มอี สมาร์ท โปรวิ้น (SMEs Smart Province)" เพื่อผลักดันให้เกิดการส่งเสริมการตลาดทั้งในและต่างประเทศ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันระหว่างจังหวัดและการค้าชายแดน การค้าข้ามแดนและการค้าในระดับสากล ตลอดจนการส่งออกในทวีปต่างๆ ไม่ว่าตะวันออกกลาง จีนตอนใต้และแอฟฟริกา
“การผลักดันในจุดแรกก็คือ เรื่องการตลาด อันที่สองความร่วมมือในเรื่องการพัฒนานวัตกรรม การออกใบเซอร์มาตรฐานต่าง ๆ รวมถึงมาตรฐานฮาลาลด้วย นี่เป็นสิ่งส่งเสริมให้การค้าผลิตภัณฑ์สำหรับมุสลิมเป็นไปได้มากยิ่งขึ้น ส่วนที่สามผลักดันให้ผู้ประกอบการรายกลางรายย่อยต่าง ๆ สามารถเข้าแหล่งเงินทุนทั้ง ผู้ให้บริการที่เป็นสถาบันการเงิน (ฺBank) และผู้ให้บริการที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ( Non -Bank ) รูปแบบเหล่านี้ก็จะช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้กับผู้ประกอบการ”
ดร.ศุภชัย กล่าวอีกว่า ความร่วมมือทั้ง 3 ด้านในวันนี้จะเป็นกลยุทธ์สำคัญ ที่จะช่วยผลักดันให้องค์กรทั้งสอง เกิดบูรณาการในแนวทางของการที่จะสร้างความร่วมมือในการลงนามบันทึกความร่วมมือ(MOU)ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย ซึ่งผลที่ได้รับจะเกิดกับผู้ประกอบการและนำไปสู่การจับคู่เจรจาธุรกิจ (Business Matching) ในเร็ววันนี้
“ก้าวต่อไป หลังลงนามเอ็มโอยู(MOU) เราจะทำบิสซิเนส แมทชิ่งกันก็จะเป็นประโยชน์ทั้งสองฝ่าย มีการแลกเปลี่ยนธุรกิจระหว่างกันเพื่อส่งเสริมให้เกิดการค้าในระดับสากลสามารถส่งสินค้าต่าง ๆ ไปทั่วโลกได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมหาศาลสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย”ประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทยหรือ สภาเอสเอ็มซี กล่าว
นายมารุต เมฆลอย นายกสมาคมการค้านักธุรกิจไทย-มุสลิมหรือสมาคมTMTA กล่าวเสริมว่า การพบปะกันระหว่างสององค์กรในครั้งนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีมากๆ ในการพัฒนาและสร้างประโยชน์ให้กับสังคม สร้างความแข็งแกร่งให้กับเอสเอ็มอีไทย ซึ่งตรงกับพันธกิจที่TMTA กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากสมาคมTMTA เป็นศูนย์รวมนักธุรกิจมุสลิมในประเทศไทยทุกสาขาอาชีพ ทุกอุตสาหกรรม ตั้งแต่ธุรกิจเล็ก ๆ ไปจนถึงธุรกิจใหญ่ในประเทศไทยหลายร้อยคนทั่วประเทศที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ
“วันนี้มีโอกาสพบกับทางทีมผู้บริหารสภาเอสเอ็มอี ถือเป็นโอกาสที่ดีมาก ๆ ได้ฟังถึงหลักเกณฑ์ นโยบายการทำงานของท่านประธานดร.ศุภชัย(แก้วศิริ) รวมถึงวิสัยทัศน์ขององค์กรและเป้าหมาย ผมได้ทั้งแนวทางและแรงบันดาลใจนำไปปรับใช้กับทีเอ็มทีเอได้เยอะมาก”นายกสมาคมการค้านักธุรกิจไทย-มุสลิมกล่าวและว่าหลังจากนี้ทั้งสององค์กรจะได้ร่วมงานกันในหลายมิติ โดยงานแรกจะเป็นงานใหญ่ของสภาเอสเอ็มอีไทยที่จ.สุรินทร์ คืองานมหกรรมการค้าชายแดนไทย-กัมพูชาหรือ สุรินทร์ โมเดล เฟส2 โดยสภาเอสเอ็มอีไทยร่วมกับทางจ.สุรินทร์ จัดขึ้น ณ ด่านช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ในระหว่างวันที่ 23-25 กันยายน 2565 นี้ โดยสมาคมTMTAจะนำผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เป็นสมาชิกสมาคมฯไปร่วมงานดังกล่าวด้วย