“จินนี่” ไม่ได้ขู่ ส่งทนายความเข้าแจ้งความ “โดม ปกรณ์ ลัม”

30 ธันวาคม 2568 เวลา 15.30 น. ที่ สน.พหลโยธิน นายปริเยศ อังกูรกิตติ ในฐานะโฆษกพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วย นายศุชัยวุธ ชาวสวนกล้วย หัวหน้าฝ่ายกฎหมายพรรคไทยสร้างไทย ในฐานะทนายความ ได้รับมอบอำนาจจาก จินนี่ ยศสุดา ลีลาปัญญาเลิศ ลูกสาวคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เดินทางเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีกับ “โดม ปกรณ์ ลัม” ในข้อหาคุกคามทางเพศต่อผู้อื่นลงในระบบคอมพิวเตอร์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 284/1 วรรค 3

 

 

ภายหลัง “โดม ปกรณ์ ลัม” เข้าไปแสดงความคิดเห็นใต้ภาพของ “จินนี่“ ในลักษณะเข้าข่ายการคุกคามทางเพศ   โดยทีมทนายความได้นำเอกสารเป็นภาพและเนื้อหาที่ โดม ปกรณ์ ลัม เข้าไปแสดงความคิดเห็น รวมถึงคลิปที่ออกมาขอโทษและยอมรับผิดว่า น่าจะเป็นตัวเองที่เป็นคนแสดงความคิดเห็น

จากนั้นทนายความ ให้สัมภาษณ์ระบุว่า คุณจินนี่ ครอบครัว และสมาชิกพรรค เห็นว่าการกระทำของคุณโดม เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งการกระทำในวันนี้ที่เรามาแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อปกป้องสิทธิของสตรี

 

 

และวันนี้เราต้องขอขอบคุณที่มีการแก้ไขกฎหมาย ตามมาตรา 284/1 ในวรรค 3 ในเรื่องของการพูดคุกคามทางเพศ เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องตระหนัก โดยเฉพาะคนกระทำ และที่คุณโดมอัดคลิปล่าสุดที่มีการยอมรับ

 

ทนายความ ยังยืนยันว่า ”เราต้องทำเพื่อเป็นการปกป้องคุณจินนี่ และสุภาพสตรีคนใดคนหนึ่ง จึงมาใช้สิทธิครั้งนี้”

 

เมื่อถามว่าหลังเกิดเหตุ “โดม ปกรณ์ ลัม” ได้พยายามติดต่อเข้ามาขอโทษแล้วหรือไม่ ทนายความ กล่าวว่า เท่าที่ทราบยังไม่มีการเข้ามาพบโดยตรง ตรงนี้ต้องตระหนักไว้ว่า การที่จะขอโทษต้องแสดงถึงความจริงใจที่ชัดเจน ไม่ใช่ว่ากระทำความผิดแล้วไปต่อไม่ได้ อีกทั้งคุณโดมเป็นดาราที่มีชื่อเสียง การจะทำอะไรนั้นอยากฝากไว้ว่าต้องตระหนักในสิ่งที่รู้มากกว่าคนทั่วไป

 

 

เมื่อถามย้ำอีกว่า มีกระแสข่าวว่า “โดม ปกรณ์ ลัม” ได้พยายามติดต่อมาหลายครั้ง เพื่อขอเจรจาใช่หรือไม่นั้น ทนายความ กล่าวย้ำว่า เห็นข่าวที่คุณโดมชี้แจง เราได้นำมาเป็นหลักฐานทางกฎหมายด้วย มองว่าสิ่งตรงนี้ควรทำอะไรให้มันชัดเจนมากกว่านี้ เพราะตัวบ้านคุณหญิงสุดารัตน์ รวมถึงที่ทำการพรรคไทยสร้างไทย อยู่ที่ย่านลาดปลาเค้า ถ้าจะยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นต้องแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน

 

ทนายความ กล่าวอีกว่า ในส่วนเรื่องข้อกฎหมายที่บังคับใช้วันนี้ (30 ธ.ค.68) เป็นวันแรก คุณหญิงสุดารัตน์ เองก็ได้ย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง ที่ผ่านมามีความพยายาม ยกร่างความเท่าเทียมของผู้หญิงและผู้ชาย มาโดยตลอด แต่ความเป็นจริงก็ไม่เท่าเทียมกัน สิ่งนี้จึงอยากทำไว้เพื่อให้เป็นเรื่องที่น่าจดจำ ว่าสตรีผู้เป็นแม่มีความสำคัญ ผู้ชายจะประสบความสำเร็จได้ต้องมีผู้หญิงเป็นช้างเท้าหลัง ย้ำว่า ที่มาแจ้งความครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงเพราะคุณจินนี่ เป็นลูกสาวคุณหญิงสุดารัตน์เท่านั้น แต่เราทำเพื่อผู้หญิง

 

เมื่อถามว่า จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดใช่หรือไม่ ทนายความ กล่าวว่า เราเป็นสถาบันการเมือง การยอมความหรือไม่อยู่ที่ผู้กระทำความผิดมีความสำนึก ตระหนักและยอมรับผิดอย่างจริงใจหรือไม่

 

ด้าน นายปริเยศ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย  กล่าวถึงสภาพจิตใจของ “จินนี่” ว่า แน่นอนว่าสภาพจิตใจของจินนี่ได้รับผลกระทบจากสิ่งที่เกิดขึ้น แต่คุณจินนี่ มีความแข็งแกร่งในการฝ่าฟันเรื่องนี้ไปได้ เราได้มีการพูดกันทราบว่าคุณจินนี่และครอบครัวตัดสินใจอย่างมีวุฒิภาวะ