
15 ธันวาคม 2568 ที่ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ไทย-กัมพูชา พลเรือตรี สุรสันต์ คงศิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ในช่วงเช้าที่ผ่านมามีการเปิดฉากระดมยิงโจมตีโดยอาวุธหนักของกัมพูชามายังฝ่ายไทย หลัก ๆ ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี และ จ.สุรินทร์ ทำให้ฝ่ายไทยจำเป็นต้องตอบโต้เพื่อป้องกันตนเอง นอกจากนี้ในเรื่องการระดมยิง ส่งผลให้ต้องอพยพประชาชนโดยด่วนเพิ่มเติม 2 อำเภอ ได้แก่ อ.ขุนหาญ และ อ.ภูสิงห์ หลังจากเมื่อวานนี้ (14 ธ.ค.2568) มีแจ้งอพยพในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ แล้ว
โฆษกกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่า ฝ่ายไทยได้ยึดตัวปราสาทตาควายได้ 100% เต็ม เป็นไปตามที่มีข่าวออกมา ส่วนพื้นที่รอบข้างของปราสาทก็ยังมีการปะทะกันอยู่ต่อเนื่อง ฝ่ายไทยยังมีความพยายามยึดครองพื้นที่รอบบริเวณนั้น
ส่วนที่ฝ่ายกัมพูชาออกมาระบุว่า ภาพทหารไทยยึด "ปราสาทตาควาย" เป็นเฟกนิวส์นั้น ขอยืนยันว่าภาพนั้นเป็นภาพจริง พร้อมยืนยันว่าฝ่ายไทยยังเข้มแข็ง และรุกรบในการยึดคืนในสิ่งที่เป็นพื้นที่ของไทยต่อไป
ส่วนที่กัมพูชามีการเสนอภาพและข่าวว่ากำลังพลไทยเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากนั้น โฆษกกระทรวงกลาโหม บอกว่า ได้มีการตรวจสอบยืนยันว่าเป็นการใช้แอปพลิเคชัน AI Gemini โดยมีข้อสังเกตสัญลักษณ์รูปดาว ซึ่งการปฏิบัติการทางทหารของกำลังพลที่เข้ายึดพื้นที่ได้แล้วนั้น ได้ย้ำให้ระมัดระวังกลลวง และล่อให้เราเข้าไปในกับดัก เพื่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติอยู่หน้าแนว
ขณะที่ สถิติประชาชนที่เสียชีวิตทางอ้อม รวม 12 ราย และผู้ที่เสียชีวิตจากการโจมตี โดยอาวุธของฝ่ายกัมพูชา จำนวน 1 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 5 คน สำหรับการเฝ้าระวังผู้ที่ได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจ ก็ขอให้คนใกล้ชิดได้สอดส่องดูแล ใส่ใจ รับฟัง
ด้าน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงแนวทางในการยึดเนิน 350 หลังจากทหารไทยเข้าควบคุมตัวปราสาทตาควายได้แล้วว่า พื้นที่ปฏิบัติการโดยรอบบริเวณ "ตาควาย" เป็นเนินสำคัญ ๆ ประมาณ 2-3 พื้นที่ ซึ่งเป็นองค์ประกอบกับปราสาทตาควาย อยู่ระหว่างความพยายาม และก็ยังเป็นไปตามแผน ยังไม่มีอะไรที่น่ากังวล เชื่อว่าในขีดความสามารถของกองทัพบกจะดำเนินการได้
เมื่อถามถึงสิทธิในการครอบครองระบบอาวุธต่อสู้รถถัง GAM-102 LR และกระแสข่าวที่จีนจะขออาวุธดังกล่าวคืน โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า สำหรับอาวุธต่อสู้รถถังของจีน ยังไม่มีข้อมูลว่ามีการมาขอคืน ซึ่งในเรื่องยุทโธปกรณ์คงมีหลายอย่าง และเมื่อมีการเข้าควบคุมที่หมาย ก็จะมียุทโธปกรณ์กัมพูชาทิ้งในพื้นที่ ขณะนี้ยังไม่ได้มีการดำเนินการอย่างอื่น อยู่ระหว่างการจัดระเบียบและเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่ ส่วนเรื่องยุทโธปกรณ์ต่างๆ จะมีการจัดเก็บไว้ก่อน ยังไม่มีการดำเนินการใดต่อสิ่งอุปกรณ์เหล่านั้น
“เป็นสิ่งที่พวกเราต้องควบคุมไว้ด้วย เพราะอยู่ในพื้นที่การรบ แต่จะดำเนินการอย่างไร ก็ต้องรอหลังเสร็จสิ้นภารกิจ แล้วค่อยว่ากัน” โฆษกกองทัพบก กล่าว
เมื่อถามว่า อาวุธดังกล่าวจะอยู่ในสิทธิครอบครองของไทยหรือไม่ โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ปกติในกรณีนี้ไม่เคยปรากฏ แต่ถือว่าเป็นยุทโธปกรณ์ที่เรายึดได้ ก็ต้องอยู่ในการดูแลของไทย