
10 ธันวาคม 2568 กระทรวงวัฒนธรรมและศิลปกรรมของกัมพูชา ได้ออกแถลงการณ์ประณามกองทัพไทย กรณีใช้ปฏิบัติการทางอากาศที่สร้างความเสียหายให้กับปราสาทตาควาย ที่กัมพูชาเรียกว่า
"ปราสาทตากระเบย์" หนึ่งในสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรม ที่ได้รับการเคารพนับถือมากที่สุดของกัมพูชา ท่ามกลางความขัดแย้งตามแนวชายแดนระหว่างสองประเทศ ที่ทวีความ
รุนแรงขึ้น โดยแถลงการณ์อ้างว่า กองกำลังไทยยิงเข้าไปในพื้นที่แนวชายฝั่งทะเลของกัมพูชา ที่เรียกว่า "อันซี" (An Sea) เป็น "สิ่งที่น่าตำหนิ" และ "ไร้ศีลธรรมอย่างยิ่ง"
ซึ่งไทยได้แสดงให้เห็นถึง "การไม่เคารพต่อวัฒนธรรม อารยธรรม และมรดกอันศักดิ์สิทธิ์ ที่เป็นส่วนหนึ่งของมรดกร่วมกันของมนุษยชาติอย่างโจ่งแจ้ง"
กระทรวงยังโพสต์คลิปวิดีโอโพสต์บนหน้าเฟซบุ๊ก ซึ่งปิดกั้นการมองเห็นในประเทศไทย แสดงให้เห็นสิ่งที่อ้างว่า กองทัพไทยโจมตีปราสาทตาควายโดยตรง ทำให้ปราสาทถูกทำลายลง
อย่างสิ้นเชิง ทั้งยังย้ำด้วยว่า ปราสาทแห่งนี้ ตั้งอยู่ในพื้นที่ชายแดนที่มีข้อพิพาท เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างและอนุรักษ์โดยบรรพบุรุษของชาวเขมร และมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์
และจิตวิญญาณอย่างมหาศาล
สื่อกัมพูชา "คีรี โพสต์" รายงานว่า แถลงการณ์ของกระทรวงฯ ออกมาหลังมีการโจมตีด้วยปืนใหญ่และเครื่องบินรบ F-16 อย่างหนักเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม โดยมุ่งเป้าไปที่พื้นที่ใน
จังหวัดพระวิหารและอุดร เมียนเจย (อุดร มีชัย) และอ้างว่า ปราสาทพระวิหารก็ได้รับความเสียหายอย่างมาก สิ่งอำนวยความสะดวกด้านการอนุรักษ์ที่จัดตั้งขึ้นภายใต้โครงการ
อนุรักษ์มรดกร่วมระหว่างกัมพูชาและอินเดีย ได้รับความเสียหายอย่างสิ้นเชิง
รายงานอ้างว่า ในช่วง 5 วัน ของการปะทะกันตั้งแต่วันที่ 24 ถึง 28 กรกฎาคม ฝ่ายไทยได้ใช้ปืนใหญ่หลายชนิดโจมตีปราสาทพระวิหาร ทำให้บางส่วนของปราสาทถูกทำลาย ซึ่ง
กระทรวงฯ ได้เรียกร้องให้องค์กรระหว่างประเทศ รวมถึง ยูเนสโก (UNESCO) อาเซียน (ASEAN) องค์กรด้านวัฒนธรรมและมนุษยธรรมอื่นๆ ร่วมกัน "ประณามการกระทำเหล่านี้
อย่างชัดเจน" และกดดันกองทัพไทยให้ยุติการทำลายล้างเพิ่มเติม โดยระบุว่า "จำเป็นต้องมีการแทรกแซงอย่างเร่งด่วนทั้งในและต่างประเทศ" โดยเน้นย้ำถึงลักษณะการโจมตีแบบ
ไม่เลือกเป้าหมาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อพื้นที่พลเรือนและทำให้ประชาชนหลายหมื่นคนต้องพลัดถิ่น
สื่อกัมพูชา อ้างว่า ความขัดแย้งที่ขยายวงกว้างขึ้น ส่งผลให้พลเรือนชาวกัมพูชาเสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย และมีการอพยพ 16,568 ครอบครัว หรือประมาณ 54,550 คน ออก
จากพื้นที่ชายแดน โรงเรียนถูกปิด และมีรายงานว่าโครงสร้างพื้นฐานตามจังหวัดชายแดนได้รับความเสียหาย ซึ่งกระทรวงฯ ระบุว่า จะใช้ทุกกลไกที่มีอยู่ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ
เพื่อให้ประเทศไทยรับผิดชอบทางกฎหมายสำหรับการกระทำเหล่านี้ และเพื่อให้แน่ใจว่าการทำลายล้างที่เกิดขึ้น จะถูกบันทึกไว้ในบันทึกประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
สื่อกัมพูชา kiripost และโซเชียล X mk@kritzelei