จับแล้วมือยิงเจ็ตสกีกู้ภัยน้ำท่วมหาดใหญ่ อ้างทำไปเพราะเครียด

1 ธันวาคม 2568 ที่ สภ.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ รอง ผบช.ภ.9 พร้อมด้วย พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ รอง ผบช.ภ.9 แถลงผลการจับกุมมือยิง ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง ระหว่างที่อาสาสมัครกู้ภัย ขับเจ็ตสกีเข้าช่วยผู้ประสบเหตุน้ำท่วมหาดใหญ่ ในพื้นที่โรงเรียนบ้านเกาะหมี ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา

หลังโซเชียลมีการแชร์คลิประบุว่า อาสาฯ มาช่วยน้ำท่วม แต่ถูกยิงตามหลัง 3 นัด ตำรวจจึงรีบสอบถามผู้เสียหายทันที ทราบว่า อาสาสมัครกลุ่มดังกล่าวเดินทางจากกรุงเทพฯ เพื่อช่วยผู้ประสบภัยใน อ.หาดใหญ่ และในช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 25 พ.ย.68 ระหว่างขับเจ็ตสกีในพื้นที่โรงเรียนบ้านเกาะหมี ได้ยินเสียงดังคล้ายปืนประมาณ 3 ครั้ง จึงเร่งขับออกจากพื้นที่ 
 

มีรายงานว่า นายเริงชัย อายุ 30 ปี ผู้ต้องหา ถูกตำรวจกดดันติดตามตัวอย่างต่อเนื่อง กระทั่งวานนี้ (30 พ.ย.) ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว พร้อมอาวุธปืนพกสั้นอัตโนมัติยี่ห้อกล็อก 19 ขนาด 9 มม. ที่ใช้ก่อเหตุ สอบสวนให้การว่า ขณะเกิดเหตุอยู่กับญาติและเพื่อนบ้าน ซึ่งติดอยู่บนชั้น 2 ของบ้านจากน้ำท่วม ได้ยินเสียงเจ็ตสกีจึงพยายามตะโกนเรียกขอความช่วยเหลือ แต่คนขับอยู่ไกลจึงไม่ได้ยิน จึงตัดสินใจยิงปืนขึ้นฟ้าประมาณ 2 นัด เพื่อส่งสัญญาณ ไม่ได้มีเจตนาข่มขู่หรือทำร้ายใคร
 

ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา “ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชนโดยไม่มีเหตุอันควร” ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.คอหงส์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง ส.ส.เขต 9 สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พี่น้องประชาชนชาวสงขลาส่วนมากเป็นคนดี ที่สร้างปัญหาในช่วงน้ำท่วมหาดใหญ่เป็นส่วนน้อย ตนขอโทษอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้ามาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้รอดพ้นอันตรายด้วย 
 

ตำรวจเหตุอาวุธปืนเกิดขึ้น 3 เหตุการณ์ช่วงน้ำท่วม เร่งล่าอีก 2 เหตุ ชี้ทั้งหมดไม่ได้เกิดในพื้นที่เขต 8
 

พล.ต.ต.วรา ระบุอีกว่า เบื้องต้นได้มีการสอบถามกับกู้ภัยที่ขี่เจ็ตสกี เกี่ยวกับเส้นทางที่เกิดเหตุ จนทราบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้อยู่ในพื้นที่เขต 8 เลย รวมถึงเหตุการณ์ใช้ปืนยิงอีก 2 เหตุการณ์ สำหรับเหตุการณ์นี้ ที่ผู้ต้องหามามอบตัว คือ บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านเกาะหมี รับสารภาพว่า เป็นคนยิงปืนจริง เนื่องจากอ้างว่าติดเกาะอยู่ 3 วัน เกิดความเครียดสะสมเพราะเรือผ่านไปผ่านมาน้ำแรง จึงทำให้กระทบกับตัวบ้าน ประกอบต้องดูแลพ่อเลี้ยงชาวเมียนมาที่ป่วย พยายามเรียกให้กู้ภัยที่ขี่เจ็ตสกีช่วย แต่ไม่ได้ยินจึงใช้ปืนยิงลงน้ำ
 

ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุ เป็นปืนพกสั้นที่มีทะเบียน และเป็นของญาติที่มาติดเกาะ ไม่สามารถอพยพออกไปได้ เบื้องต้นตรวจสอบไม่พบประวัติอาชญากรรมของผู้ต้องหา และตรวจไม่เจอสารเสพติดในร่างกาย และยังไม่พบความเชื่อมโยงกับอีกสองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ใกล้เคียงกัน แต่ยืนยันว่าไม่ใช่พื้นที่เขต 8
 

ส่วนอีก 2 เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้อาวุธปืน เหตุแรกอยู่ในพื้นที่แถววัดปะกิม ห่างจากเขต 8 ประมาณ 3 กิโลเมตร  อีกเหตุอยู่ที่ปลักหว้า ห่างจากเขต 8 ระยะทางพอสมควร ซึ่งทั้ง 2 เหตุการณ์นี้ยังจับกุมตัวผู้ก่อเหตุไม่ได้ แต่ตำรวจยังคงเดินหน้าติดตามจับกุมต่อ
 

จ่อดำเนินคดีเพิ่ม เหตุลักทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ-ลักเบียร์ยี่ห้อดังเพิ่ม
 

สำหรับเรื่องของการลักทรัพย์ในร้านสะดวกซื้อ เบื้องต้นทางผู้ประกอบการได้เข้ามาแจ้งความ แล้วแต่ยังประเมินค่ามูลค่าความเสียหายไม่ได้ และเหตุลักทรัพย์ประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยี่ห้อดัง ผู้เสียหายได้เข้ามาแจ้งความแล้ว
 

พล.ต.ต.วรา ระบุต่อถึงประเด็นเรื่องเขต 8 จากการเดินสำรวจด้วยตัวเอง รวมถึงการลงพื้นที่ของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ติดต่อกัน 3 วัน ยืนยันว่าไม่ได้มีผู้มีอิทธิพล ซึ่งหากมีก็เข้าไปดำเนินการจับกุมตลอดเวลา จึงอยากให้ความมั่นใจกับสื่อมวลชนและชาวหาดใหญ่ แต่ต้องยอมรับในเรื่องของยาเสพติดและผู้เสพ ที่ตำรวจก็ติดตามจับกุมอย่างต่อเนื่อง พร้อมยืนยันไม่ยอมให้ใครมาอยู่เหนือกฎหมาย ซึ่งวันนี้ตำรวจต้องทำ 2 ส่วนควบคู่กันไปคือ การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผล
กระทบจากเหตุอุทกภัยครั้งนี้ และเหตุลักทรัพย์ แม้ว่าผู้ต้องหาจะกล่าวอ้างว่า ก่อเหตุเนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม แต่ถ้าเป็นสิ่งผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินคดี
 

ส่วนกรณีการโพสต์ลงโซเชียล เกี่ยวกับการเสียชีวิตของคนในเขต 8 จำนวนหลาย 100 ศพ และอ้างว่า รัฐบาลปิดบังตัวเลขนั้น พล.ต.ต.วรา ระบุว่า รัฐบาลมีการเยียวยาอย่างชัดเจน หากใครที่เป็นญาติผู้เสียชีวิต สามารถนำหลักฐานมาแจ้งได้ ซึ่งหลังสถานการณ์คลี่คลายมาหลายวัน หากมีคนตายสูงขนาดนั้น จะต้องส่งกลิ่นเหม็น แต่จากการลงพื้นที่ ก็ยังไม่มีกลิ่นเน่าเหม็น และชาวบ้านส่วนใหญ่ก็กลับเข้าบ้านพักอาศัยเกือบทั้งหมดแล้ว ก็ยังไม่มีการได้รับแจ้งเพิ่มเติม จึงอยากขอทำความเข้าใจ
 

น้อมรับผิดเหตุตำรวจใช้แบคโฮดันรถชาวบ้าน พร้อมเยียวยาทั้งหมด
 

พล.ต.ต.วรา ยอมรับว่า แม้จะมีกระแสออกมาโจมตี และ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ก็ไม่บั่นทอน เพราะการลงมือทำไม่ว่าจะทำดีหรือไม่ดี ต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่แล้ว ทุกอย่างมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ แต่เรายึดในเรื่องของข้อเท็จจริง ที่มันชัดเจนว่า สิ่งที่ทำเป็นอย่างไร ซึ่งวันนี้ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ติดต่อเข้ามาและสั่งการเกี่ยวกับการช่วยเหลือประชาชน และได้ดำเนินการ ประสานรถยกอีก 40 คันเดินทางมาจากกรุงเทพ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวหาดใหญ่ เพื่อเร่งเปิดการจราจรให้ได้มากที่สุด
 

ส่วนกรณีที่เป็นคลิปว่า มีรถแบคโฮไปดันรถชาวบ้าน ตำรวจยอมรับผิด ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องเคลียร์พื้นที่เร่งด่วน เพื่อเปิดพื้นที่ให้กับเจ้าหน้าที่เอาของเข้ามาช่วยเหลือประชาชน และเปิดเส้นทางให้รถพยาบาล แต่ยอมรับผิด และพร้อมที่จะเข้าไปเจรจาเยียวยาให้กับเจ้าของรถ หากรถคันนั้นเสียหาย เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า มีเจ้าของที่รถเสียหายประมาณ 8 ถึง 10 คัน จากกรณีนี้