svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าวสถานการณ์

บุกทลาย "โรงงานผลิตน้ำกระท่อม-ยาเสียสาว" เครือข่ายข้ามชาติ

บุกทลาย "โรงงานผลิตน้ำกระท่อม-ยาเสียสาว" เครือข่ายข้ามชาติ ยกระดับการปราบปรามยาเสพติดครั้งสำคัญ

11 พฤศจิกายน 2568 โรงงานผลิตน้ำกระท่อม ซอยปุณณวิถี กรุงเทพฯ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้แถลงผลการปฏิบัติงานด้านการปราบปรามยาเสพติดครั้งสำคัญ

 

 

โดยมี พล.ต.ท.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร. เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นำโดย ภญ.สุภัทรา บุญเสริม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา, ผู้ช่วย ผบ.ตร., ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.), และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง เพื่อ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการต้องชนะยาเสพติดให้ได้อย่างเป็นรูปธรรม

 

 

 

บุกทลาย "โรงงานผลิตน้ำกระท่อม-ยาเสียสาว" เครือข่ายข้ามชาติ

 

บุกทลาย "โรงงานผลิตน้ำกระท่อม-ยาเสียสาว" เครือข่ายข้ามชาติ

 

บุกทลาย "โรงงานผลิตน้ำกระท่อม-ยาเสียสาว" เครือข่ายข้ามชาติ

 

บุกทลาย "โรงงานผลิตน้ำกระท่อม-ยาเสียสาว" เครือข่ายข้ามชาติ

 

 

 

 

จากความร่วมมือระหว่างประเทศ ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นผลจากการสืบสวนขยายผลต่อเนื่อง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2568 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.1 ได้ประสานความร่วมมือกับสำนักงานปราบปรามยาเสพติด สหรัฐอเมริกา (DEA) ประจำกรุงเทพมหานคร ทำการตรวจยึดวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 ที่ถูกลักลอบส่งออกนอกราชอาณาจักร โดยมีปลายทางที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและอีกหลายประเทศ จากการสืบสวนเชิงลึกและรวบรวมพยานหลักฐาน เจ้าหน้าที่สามารถออกหมายจับและจับกุมผู้ต้องหาชุดแรกได้ 3 คน พร้อมทั้งยึดวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 และ 4 จำนวนมาก รวมถึงเอกสารที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดรวม 200 ล้านบาท

 

 

 

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.1 และ DEA ได้ร่วมกันสืบสวนขยายผลต่อ จนสามารถระบุตัวบุคคลในเครือข่ายเพิ่มเติม ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาและจัดส่งวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 และ 4 ให้กับกลุ่มร้านขายยาในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยมีเป้าหมายจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ กลุ่มเยาวชน และนักท่องเที่ยวกลางคืน ข้อมูลจากการสืบสวนยืนยันว่าเครือข่ายนี้มีความเชื่อมโยงกับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้า เจ้าหน้าที่จึงสามารถรวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายจับกลุ่มบุคคลดังกล่าวได้เพิ่มเติมอีก 4 คน ปฏิบัติการปิดล้อม: ยึดของกลางและทรัพย์สินกว่า 320 ล้านบาท

 

จากการขยายผลการจับกุมการลักลอบจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (Alprazolam) และประเภท 4 (Lorazepam) กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) จึงได้สนธิกำลังร่วมกับสำนักงาน อย. ลงพื้นที่ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นทลายเครือข่ายวัตถุออกฤทธิ์ข้ามชาติรวม 8 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ครอบคลุมทั้งสถานที่เก็บ, สถานที่จำหน่าย, และโรงงานผลิตน้ำกระท่อม

 

ผลการปฏิบัติการ: จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้รวมทั้งสิ้น 4 ราย ได้แก่

1. นายวีระชาติ xxxx

2. น.ส.รดารัตน์ xxxx

3. น.ส.เนตรนภา xxxx

4. น.ส.สายชล xxxx

โดยถูกดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 อัลปราโซแลม, โซลพิเดม โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด ของกลางสำคัญที่ตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบ ยาแก้ไอ 27,500 ขวด ยาเม็ดทรามาดอล 50,000 เม็ด Zopic loane 1,000 เม็ด Diazepam 1,500 เม็ด

 

 

นอกจากนี้ ยังสามารถยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดไว้ตรวจสอบ เป็นบ้าน ที่ดิน รถยนต์ และเครื่องประดับ รวมมูลค่ากว่า 320 ล้านบาท การจับกุมครั้งนี้ถือเป็น หมุดหมายสำคัญ ของความร่วมมือระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของไทยและสหรัฐอเมริกา ในการตัดวงจรขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ซึ่งใช้ประเทศไทยเป็นจุดพักและส่งผ่านวัตถุออกฤทธิ์ไปยังตลาดต่างประเทศ

 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ยืนยันในความมุ่งมั่น ที่จะดำเนินการสืบสวนขยายผลอย่างต่อเนื่องเพื่อติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่ยังหลบหนี รวมถึงดำเนินการติดตามยึดทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุดต่อไป