
10 พฤศจิกายน 2568 พลเอก กฤษณะ บวรรัตนารักษ์ อดีตที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และอดีตรองเจ้ากรมพระธรรมนูญ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้อสังเกตการณ์กรณีให้นักข่าวหรือสื่อมวลชนได้มีโอกาสพบและสัมภาษณ์เชลยศึกกัมพูชาก่อนปล่อยตัวว่าได้รับการปฏิบัติดีเพียงใดภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
ซึ่งในที่นี้คือ อนุสัญญาเจนีวา ฉบับที่ 3 เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อเชลยศึก ลงวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 1949 สรุปได้ว่า ไม่อาจกระทำได้ เนื่องจากเป็นการฝ่าฝืนอนุสัญญาดังกล่าว เพราะในข้อ 13 กำหนดว่า เชลยศึกจะต้องได้รับการปฏิบัติอย่างมีมนุษยธรรมในทุกโอกาส รวมทั้งได้รับการคุ้มครองจากความสนใจหรือสอดรู้สอดเห็นของประชาชนและสังคม ( Prohibits exposure to public curiosity) โดยห้ามเปิดเผยเกี่ยวกับตัวตนของเชลยศึก แม้เจ้าตัวจะยินยอมโดยสมัครใจก็ตาม และไม่ว่าในพฤติการณ์ใดๆ เชลยศึกมีสิทธิได้รับความเคารพในตัวตนและเกียรติยศ
และข้อ 14.กำหนดว่า เชลยศึกมีสิทธิได้รับการเคารพในตัวบุคคล และเกียรติของตนในทุกสถานการณ์ ดังนั้น จึงไม่สมควรให้นักข่าวหรือสื่อมวลชนได้มีโอกาสพบและสัมภาษณ์เชลยศึกไม่ว่ามีโอกาสบันทึกภาพ หรือพูดคุยหรือไม่ก็ตาม
เชลยศึกเป็นเรื่องที่ประชาชนอยากเห็นตัวและอยากทราบข่าวคราวตลอดจนพฤติกรรมระหว่างถูกควบคุมตัวตลอดเวลา ซึ่งการสอดรู้สอดเห็นนี้อาจมีความเกลียดหรือเคียดแค้น เพราะเป็นข้าศึกหรือศัตรูมาทำการรบก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมทั้งการสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บของกำลังพลของกองทัพประเทศที่ควบคุมตัว
แต่ภายใต้หลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ บรรดาเชลยศึกยังมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่ได้รับการคุ้มครองจากการดูหมิ่นดูแคลน ถากถาง เยาะเย้ย หรือวิจารณ์ ด่าว่า หรือการปาสิ่งของใส่ รวมทั้งจากการทำร้ายร่างกายได้ ตัวอย่างที่เห็นชัด คือ การที่ทหารเวียดกงนำเอาตัวนักบินสหรัฐอเมริกาที่มาทิ้งระเบิดใส่สถานที่ต่างๆในเวียดนามเหนือแล้วเครื่องบินถูกยิง
โดยจรวดตกลงมาถูกจับตัวเป็นเชลยศึก ทหารเวียดกงก็จะเอาเชือกมาพันธนาการตัวพาไปเดินประจานตามถนนในหมู่บ้าน แล้วถูกด่าทอ เหยียดหยามดูหมิ่นดูแคลน ซึ่งเป็นการละเมิดต่อตัวบุคคล และเกียรติของตนในทุกสถานการณ์ ตลอดจนเป็นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่ได้รับการคุ้มครอง
ทั้งนี้ การปฏิบัติและดูแลต่อเชลยศึกต้องเป็นไปตามอนุสัญญาเจนีวาดังกล่าว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ มิใช่การปฏิบัติตามกฎบัตรสหประชาชาติแต่อย่างใด