svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าวสถานการณ์

"นายกฯ" สั่งการด่วน "ผู้ว่าฯทุกจังหวัด-กทม." ติดตามเฝ้าระวังพายุ "คัลแมกี"

"นายกฯ" สั่งการด่วน "ผู้ว่าฯทุกจังหวัด-กทม." ติดตามเฝ้าระวังพายุ "คัลแมกี" ช่วงวันที่ 7–9 พ.ย. อย่างใกล้ชิด เร่งระบายน้ำให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน

จากสถานการณ์ฝนตกถึงตกหนักมากในหลายพื้นที่ของประเทศไทย จากอิทธิพล พายุไต้ฝุ่น “คัลแมกี” (KALMAEGI) ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันออกของฟิลิปปินส์ โดยคาดว่าพายุจะเคลื่อนลงทะเลจีนใต้ตอนกลาง ช่วงวันที่ 4–5 พ.ย. และจะขึ้นฝั่งเวียดนามตอนกลาง ในวันที่ 6–7 พ.ย. แล้วอ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชัน จากนั้นจะกลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง เคลื่อนเข้าปกคลุมภาคอีสานของไทยช่วง 7 พ.ย. 68 ซึ่งจะทำให้มีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคอีสานก่อนจะขยายสู่ภาคอื่น

 

 

 

4 พฤศจิกายน 2568 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีสั่งการกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์ พายุ “คัลแมกี" อย่างใกล้ชิด เน้นย้ำเร่งระบายน้ำ โดยเฉพาะในพื้นที่เศรษฐกิจและพื้นที่ชุมชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด และสั่งการให้ประสานกับกรุงเทพมหานคร ติดตามสถานการณ์สภาวะอากาศ และ "สื่อสารกับพี่น้องประชาชนทุกช่องทางอย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที"

พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องจักรกลสาธารณภัยให้มีความพร้อมใช้งาน โดยมีศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ระดับต่าง ๆ ทำหน้าที่อำนวยการระดมสรรพกำลังให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย

รวมทั้งการบริหารจัดการอำนวยความสะดวกประชาชนทั้งเส้นทางจราจร การเดินทาง

 

 

\"นายกฯ\" สั่งการด่วน \"ผู้ว่าฯทุกจังหวัด-กทม.\" ติดตามเฝ้าระวังพายุ \"คัลแมกี\"

 

\"นายกฯ\" สั่งการด่วน \"ผู้ว่าฯทุกจังหวัด-กทม.\" ติดตามเฝ้าระวังพายุ \"คัลแมกี\"

 

\"นายกฯ\" สั่งการด่วน \"ผู้ว่าฯทุกจังหวัด-กทม.\" ติดตามเฝ้าระวังพายุ \"คัลแมกี\"

 

 

”สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานคร และพื้นที่เขตเศรษฐกิจของจังหวัด ต้องเร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ และติดตั้งเครื่องมือสำหรับการระบายน้ำอย่างเต็มกำลัง และเฝ้าระวังความปลอดภัยของป้ายโฆษณา สิ่งก่อสร้าง ไม้ยืนต้นหรือโครงสร้างพื้นฐาน หากบริเวณใดมีความเสี่ยงที่จะโค่นล้มหรือพังทลาย ต้องประกาศห้ามสัญจรหรือห้ามประชาชนพักอาศัยบริเวณดังกล่าว

สำหรับพื้นที่ที่มักเกิดเหตุน้ำท่วมขัง น้ำท่วมสูง จนยานพาหนะไม่สามารถใช้เดินทางได้ หรือประชาชนไม่สามารถเดินทางสัญจรได้ อาทิ ถนน ตรอก ซอย ต้องจัดทำป้ายแจ้งเตือนหรือสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายแจ้งเตือนให้ประชาชนผู้สัญจรและผู้ใช้รถใช้ถนนได้ทราบ

เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะจากกระแสไฟรั่ว และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรรวมถึงอาสาสมัครต่าง ๆ ได้อำนวยความสะดวกในพื้นที่ พร้อมทั้งประสานงานวิทยุชุมชน และวิทยุกระจายเสียงคลื่นหลัก

รวมถึงสื่อโซเชียลมีเดีย ได้ร่วมกันสื่อสารแจ้งความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสภาพอากาศและการจราจร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน“ นายกรัฐมนตรี กำชับ

 

 

ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศพยากรณ์อากาศ 24 ชม.ข้างหน้า ดังนี้

บริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก และกรุงเทพมหานคร จะมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตาก กำแพงเพชร นครสวรรค์ สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และจังหวัดนครปฐม โดยอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย อากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้พื้นที่จังหวัดดังกล่าวระวังฝนตกหนักบางจุดอาจทำให้เกิดน้ำท่วมขัง

ส่วนภาคใต้ จะมีฝนฟ้าคะนองและ ฝนตกหนักบางแห่ง ตั้งแต่เพชรบุรีลงไป คลื่นลมอันดามันตอนบนสูง 1–2 เมตร (บริเวณฝนฟ้าคะนองสูงกว่า 2 ม.) ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

สำหรับแนวโน้มใน 7 วันข้างหน้า (4–10 พ.ย. 68) กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ ดังนี้

• 4–6 พ.ย. ไทยตอนบนมีฝนลดลง อากาศเย็นตอนเช้า

• 7–10 พ.ย. ฝนเพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะภาคกลาง ภาคตะวันออก และอีสานตอนล่าง จากอิทธิพลของพายุ

• ภาคใต้ มีฝนตกหนักต่อเนื่อง คลื่นลมแรง โดยเฉพาะวันที่ 5–7 พ.ย. คลื่นสูง 2–3 เมตร