
17 พฤศจิกายน 2568 ตำรวจจังหวัดสระแก้วระดมกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบและควบคุมสายเคเบิลใยแก้วนำแสงที่เชื่อมต่อไปยังฝั่งกัมพูชา หลังพบว่าพื้นที่ตามแนวชายแดนอรัญประเทศ ยังคงเป็นจุดที่กลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติลักลอบใช้โครงข่ายอินเทอร์เน็ต เพื่อสนับสนุนกิจกรรมผิดกฎหมาย โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และกลุ่มหลอกลวงออนไลน์ ที่ตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ในฝั่งปอยเปต
ปฏิบัติการเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 10.00 – 15.00 น. ตามคำสั่งของ พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว พ.ต.อ.ดำรง เอี่ยมไพโรจน์ ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว พ.ต.อ.ภัทรกร ขาวนวล ผกก.สภ.คลองลึก โดยมอบหมายให้ชุดปฏิบัติการนำโดย พ.ต.ท.สมัชญ์ นาคพน รอง ผกก.สส.สภ.คลองลึก (หัวหน้าชุด) พ.ต.ท.รัชกร เหลืองทองคำ รอง ผกก.กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว พ.ต.ท.พุฒิพัฒน์ โกสินอภิวัฒน์ รอง ผกก.ป.สภ.คลองลึก พร้อมเจ้าหน้าที่จาก บมจ.ซิมโฟนี่ฯ ซึ่งเป็นผู้ดูแลโครงข่ายสื่อสารในพื้นที่ ลงพื้นที่ตรวจสอบสายเคเบิลใยแก้วนำแสงตามจุดเสี่ยงทั้ง 3 จุด รวมทั้งหมด 10 เส้น
ตรวจเข้ม 3 จุดเสี่ยงชายแดน พบสายเคเบิลใช้งานและสำรองรวม 10 เส้น
มาตรการคุมเข้มเพื่อสกัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมไซเบอร์
ตำรวจสระแก้ว ระบุว่า การตรวจสอบและติดแท็กสายเคเบิลในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการเร่งด่วนในการสกัดเส้นทางสื่อสารที่อาจถูกนำไปใช้ในกิจกรรมผิดกฎหมาย เช่น การฉ้อโกงออนไลน์ , แก๊งคอลเซ็นเตอร์ , การลักลอบเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ต การสนับสนุนระบบสื่อสารของกลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์ , การปิดบังตัวตนของผู้กระทำผิดในต่างประเทศฝั่งกัมพูชา โดยเฉพาะพื้นที่ปอยเปต ถูกระบุว่าเป็นฐานที่ตั้งของกลุ่มหลอกลวงออนไลน์จำนวนมาก และมีการพยายามลอบใช้โครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตจากฝั่งไทย เพื่อเพิ่มเสถียรภาพของระบบหรือปิดบังที่มาที่แท้จริงของสัญญาณ
การติดแท็ก (Tag Seal) เพื่อควบคุม ตรวจสอบย้อนหลังได้ทันที รวมถึงการติดแท็กสายเคเบิลทุกเส้นช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบเจ้าของสายได้ทันที เมื่อตรวจพบความผิดปกติ มีการต่อพ่วงเพิ่ม จึงเป็นการปิดช่องโหว่ในการลักลอบลำเลียงสัญญาณ รองรับการตรวจสอบย้อนหลังในคดีอาชญากรรมไซเบอร์ ถือเป็นระบบควบคุมที่ช่วยยกระดับความปลอดภัยของโครงข่ายสื่อสารบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา