
21 กรกฎาคม 2568 ที่จังหวัดพิจิตร หลังเกิดกระแสข่าวในโลกโซเชียล งัดหลักฐานการแอบลงรักปิดทอง องค์หลวงพ่อเพชร ภายในพระอุโบสถวัดท่าหลวงพระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ของพระเทพวัชรสิทธิเมธี อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และเจ้าอาว่าวัดท่าหลวง ที่ลาสิกขาไปเพราะเหตุสีกากอล์ฟ และยังว่ามีสร้อยสังวาลเก่าแก่หายไปด้วย
นายสิทธิธรรม บัวเขียว ชาวอำเภอเมืองพิจิตร เปิดเผยว่า อยากให้กรมศิลปากร ลงมาตรวจสอบว่า การแอบลักลอบปิดทองของอดีตเจ้าอาวาสถูกต้องหรือไม่ เพราะการลงรักปิดทององค์หลวงพ่อเพชร ถือเป็นบุญใหญ่ที่ชาวพิจิตรอยากเข้าร่วมในพิธี แต่กลับมีการแอบลงรักปิดทองกันเงียบๆ และที่สำคัญทองเก่าที่นำออกจากองค์หลวงพ่อเพชร เอาไปไว้ไหน และสร้อยสังวาลย์ ที่อยู่ที่องค์หลวงพ่อเพชร เส้นเก่าแก่ก็หายไปด้วย มีการนำสร้อยเส้นใหม่มาเปลี่ยนไว้แทนอย่างไม่ทราบสาเหตุ รวมถึงในพระเกศาหลวงพ่อเพชรที่เปิดออก ได้มีสิ่งของหรือวัตถุมงคลที่มีค่าหรือไม่
นายคม ภัทรกุลประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักพุทธศาสนาจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า ไม่ทราบเรื่องมาก่อนเพราะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2562 และการขออนุญาตวัดสามารถขออนุญาตโดยตรงกับกรมศิลปากร เนื่องจากวัดเป็นนิติบุคคล ไม่ต้องขอผ่านสำนักงานพุทธศาสนา โดยหากไม่ได้มีการขออนุญาตก็อาจ ผิด พ.ร.บ.โบราณสถาน
สำหรับการลักลอบปิดทองผู้สื่อข่าวได้ขอมูลจากเพจ PHICHIT LIVE NEWS ซึ่งไปไปสัมภาษณ์พระเทพวัชรสิทธิเมธี อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรและเจ้าอาว่าวัดท่าหลวง เมื่อปี 2562 ไว้ โดยพระเทพวัชรสิทธิเมธี ในขณะนี้นั้นบอกว่า สาเหตุที่ต้องรีบลงรักปิดทองเพราะพระผู้ใหญ่ในกรุงเทพ อยากทำบุญปิดทององค์หลวงพ่อเพชร และเห็นว่าใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง เลยไม่ได้แจ้งข่าวกับชาวบ้านให้มาร่วมงาน และไม่ได้ขออณุญาติกรมศิลปรากรด้วย
ในขณะที่เรื่องของเอกสารเมื่อปี 2562 ที่หายไป ล่าสุดนายพลกฤษ มีศรี ไวยาจักรวัดท่าหลวง ได้แจ้งว่า ในขณะนี้ได้พบ เอกสารปี 2562 ที่หายไปแล้ว โดยเอกสารถูกเก็บไว้ในถุงดำในห้องของสำนักงานเลขาเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้ไม่รู้ เพราะไม่ได้รับเอกสารนี้มา และเตรียมที่จะนำส่งให้ตำรวจสอบสวนกลางต่อไป