svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ไกล่เกลี่ย “ดีเจแมน” ลงตัว ถอนฟ้องคดีหมิ่นประมาท

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ไกล่เกลี่ย “ดีเจแมน” สำเร็จลงตัว ถอนฟ้องคดีหมิ่นประมาท ย้ำความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว ด้านดีเจแมน เผย จบเฉพาะคดีนี้ส่วนคดีที่กองปราบ ว่ากันตามกระบวนการ

2 กรกฎาคม 2568 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังจาก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องคดีที่ นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ "ฟิล์ม"  นักร้อง นักแสดงชื่อดัง เป็นโจทก์ ฟ้อง นายพัฒนพล กุญชร ณ อยุธยา หรือ ดีเจแมน เป็นจำเลยในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ในกรณีกล่าวหาว่า นายรัฐภูมิ เรียกเงิน 14 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือคดี Forex-3D เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา และศาลเลื่อนการไต่สวน เนื่องจากทนายความของทั้งสองฝ่ายต้องการให้พูดคุยกันก่อน 

ในวันนี้ ศาลได้นัดทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยในเวลา 09.00 น. โดยทั้งนายรัฐภูมิ และนายพัฒนพล มาพร้อมกับทนายความส่วนตัวของทั้งคู่ 

โดยต่อมาทั้งสองฝ่ายสามารถไกล่เกลี่ยกันได้สำเร็จ ใช้เวลาไกล่เกลี่ยกันประมาณ 3 ชั่วโมง โดยนายรัฐภูมิ กล่าวว่า 2 ฝ่ายไกล่เกลี่ยกันได้และเป็นไปได้ด้วยดี ให้อภัยซึ่งกันและกัน โดยในวันนี้ตนยอมถอนฟ้อง

นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ "ฟิล์ม"

 

เมื่อถามว่า ที่ไกล่เกลี่ยกันได้นั้นหมายความว่าสิ่งที่นายพัฒนพลพูดไปไม่เป็นความจริงหรือไม่ นายรัฐภูมิ ระบุว่า อยากให้ไปถามเจ้าตัวดีกว่า ตนได้ตั้งธงมาแล้วว่า หากคุยกันได้ก็พร้อมให้อภัยกันทุกเรื่อง เพราะที่ฟ้องเขาไม่ได้มีเจตนาอะไร เพียงแค่อยากยืนยันความบริสุทธิ์ใจ และไม่ได้เป็นแบบที่เขาพูด ไม่เคยไปตบทรัพย์และทำสิ่งไม่ดี โดยวันนี้ได้อธิบายให้เขาฟัง พอเขาได้ฟังเขาก็ยินดีและก็ให้อภัยกันทุกเรื่อง 

เมื่อถามว่า นายพัฒนพลได้ขอโทษหรือไม่ นายรัฐภูมิ ตนขอไม่ตอบในส่วนนี้ แต่เรียกว่าให้อภัยกันดีกว่า และสำหรับครอบครัวนี้ ก็ผูกพันกันมานาน มีแค่ตนที่คอยช่วยเหลือ พูดมาตั้งแต่วันแรก ไม่มีเลยที่จะไปทำร้ายครอบครัวนี้ มันเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำ ไม่เข้าใจว่าไปทำร้ายเขาได้ยังไง แต่พอปรับความเข้าใจกันแล้วทุกอย่างก็แฮปปี้

นายรัฐภูมิ ย้ำว่า ตั้งแต่วันแรกที่ตนมา ตนได้บอกทุกคนว่าไม่เคยคิดที่จะทำร้ายใครเลย และเราโดนกระทำขนาดนี้ แต่ตนไม่คิดอะไรและพร้อมให้อภัยกับทุกอย่าง 

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านายรัฐภูมิ ยังยืนยันให้ดีเจแมนขอโทษ ยังต้องการคำขอโทษอยู่หรือไม่ นายรัฐภูมิ กล่าวว่า ไม่เป็นไร เรื่องมันจบไปแล้ว

เมื่อถามต่อว่า นายรัฐภูมิ ยังสามารถเป็นเพื่อนกับนายพัฒนพล ได้หรือไม่ นายรัฐภูมิ  ระบุว่า "ก็โอเค เมื่อกี้กอดกัน และตนก็ผูกพันกับครอบครัวนี้อยู่แล้ว"

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านายพัฒนพล มั่นใจ เรามีไม้เด็ดอะไรหรือไม่ นายรัฐภูมิ กล่าวว่า "ความจริง" และใช้การพูดคุยในการปรับความเข้าใจเรื่องทุกอย่างก็จบ ส่วนขั้นตอนต่อไปหลังจากนี้ก็จะถอนฟ้อง ซึ่งน่าจะทำให้ น.ส.สุธีวัน สบายใจ ส่วนคดีที่นายพัฒนพล แจ้งความไว้ที่ สน.นั้นก็ไม่มีอะไร ก็แล้วแต่ดีเจแมนว่า จะถอนแจ้งความหรือไม่ ขอให้รอฟังจากปากดีเจแมนแล้วกัน 

เมื่อถามว่า ในการไกล่เกลี่ยได้มีข้อตกลงเพิ่มเติมอะไรหรือไม่ นายรัฐภูมิ กล่าวว่า มันไม่ได้มีอะไรขนาดนั้น ก็พูดคุยกันไป เมื่อทุกอย่างลงตัว เขาคงไม่รู้จะพูดอะไร และไม่รู้จะพูดถึงกันอีกทำไม เพราะทุกอย่างมันแฮปปี้แล้ว 

นายรัฐภูมิ กล่าวด้วยว่า สำหรับทุกคนที่เชื่อมั่นในตัวตน เขาก็เชื่อมันในทุกข่าว ทุกคดีที่เกิดขึ้นมา ส่วนเรื่องที่ใครจะเข้าใจผิดตนก็ไม่ได้ไปสนใจ หรือยืนยันอะไรอีก เพราะสำหรับตนนั้น ภาพในวันนี้มันชัด ทุกอย่างเงียบหมดมันเลย น่าจะเป็นการตอกย้ำอะไรบางอย่าง และตนอยากบอกทุกคนว่าขอบคุณมาที่เชื่อมั่น "ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว" มันเลยทำให้ตนผ่านมาได้ทุกเรื่อง และใครที่พูดไม่ดีกับเรา ถ้าเราเชื่อในตนเอง มันก็จะทำให้เราผ่านไปได้ และตนก็ไม่ทราบว่าสำหรับคนที่เข้าใจผิดไปแล้ว จะมองเราเปลี่ยนไปหรือไม่แต่ก็อยากให้เห็นใจว่า "มองดีดี เราคือผู้ที่ถูกกระทำ"

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ไกล่เกลี่ย “ดีเจแมน” ลงตัว ถอนฟ้องคดีหมิ่นประมาท

ด้าน นายพัฒนพล ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากที่ไกล่เกลี่ยกันได้ว่า วันนี้ทั้งสองฝ่ายสามารถยอมความกันได้ ทำให้คดีที่นายรัฐภูมิ กล่าวหาว่าตนหมิ่นประมาทสิ้นสุดลง แต่เฉพาะคดีนี้ ส่วนอีกคดีที่ตนแจ้งความนายรัฐภูมิ ที่กองปราบปราม คดียังคงอยู่เหมือนเดิม และกำลังรอพนักงานสอบสวนเรียกไปให้ปากคำอีกครั้ง

ด้าน นายอมร ทนายความส่วนตัวของนายพัฒนพล กล่าวว่า วันนี้ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยกันทุกเรื่องและสามารถปรับความเข้าใจกันได้ ต่างฝ่ายได้ขอโทษซึ่งกันและกัน ส่วนอีกคดีนั้นก็ว่ากันไปตามขั้นตอนทางคดีต่อไป แต่ตนขอไม่ลงรายละเอียดว่าทั้งคู่สามารถไกล่เกลี่ยกันได้อย่างไร เพราะว่าเป็นขั้นตอนของกระบวนการไกล่เกลี่ย แต่อย่างไรก็ตาม ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ทั้งคู่สามารถปรับความเข้าใจจนได้ข้อยุติในคดีนี้แล้ว โดยไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย

นายพัฒนพล กล่าวอีกว่า วันนี้ตนมาในประเด็นการไกล่เกลี่ยคดีนี้เท่านั้น ซึ่งวันนี้สามารถจบเรื่องนี้ได้ ส่วนที่ตนเองเคยพูดไว้ก็ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ส่วนความสัมพันธ์ของตนกับนายรัฐภูมิ ถือว่าห่างกันประมาณหนึ่ง เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้สนิทกันเท่าไหร่ การที่ทั้งตนและนายรัฐภูมิ ต่างคนต่างอยู่ ถือว่าเป็นผลดีกับทั้งสองฝ่าย คดีไหนที่จบได้ ตนก็อยากจะให้จบไป เพราะตนมีประสบการณ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับการขึ้นศาลมาแล้ว

หลังจากนี้ ตนจะโฟกัสเกี่ยวกับการเลี้ยงดูครอบครัว และเป็นพ่อที่ดีของลูกตนเองต่อไป ซึ่งตอนนี้ก็อยู่ในระหว่างการก่อร่างสร้างตัวให้ชีวิตครอบครัวดีขึ้น ภายหลังจากที่ตนออกมาจากเรือนจำ และจะพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด